1. การย้ายผู้บริหารมี 3 กรณี คือ ....
1. การย้ายกรณีปกติ (ย้ายเพื่ออยู่ร่วมกับคู่สมรส, ย้ายเพื่อดูแลบิดามารดา, ย้ายกลับภูมิลำเนา)
2. การย้ายกรณีพิเศษ (ย้ายเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง, ย้ายเนื่องจากถูกคุกคามทางชีวิต, ย้ายเพื่อดูแลบิดา มารดา คู่สมรสเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง)
3. การย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ย้ายเพื่อแก้ปัญหาการบริหารจัดการในหน่วยงานการศึกษา, ย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
2. การย้ายไปดำรงตำแหน่งว่างหมายถึง การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งว่างซึ่งมีอัตราเงินเดือน
3. การย้ายสับเปลี่ยนหมายถึง การย้ายสับเปลี่ยนระหว่างบุคคลกับบุคคล
4. การย้ายโดยตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนหมายถึง การตัดโอนตำแหน่งและอัตราเงินเดือนตามตัวบุคคลจากหน่วยงานการศึกษาเดิมไปกำหนดในหน่วยงานการศึกษาอื่น
5. การย้ายกรณีปกติ ผอ. และ รอง ผอ. จะต้องดำรงตำแหน่งไม่น้อยกว่า12 เดือน
6. ผอ. และ รอง ผอ. อยู่ระหว่างการลาศึกษาต่อเต็มเวลาไม่สามารถย้ายกรณีปกติได้
7. กรณีย้ายปกติ ผู้ขอย้ายจะต้องมีอายุราชการเหลือไม่น้อยกว่า 1 ปี 6 เดือน นับถึง 30 กันยายน ของปีที่ครบเกษียณอายุราชการ
8. หากหน่วยงานที่จะรับย้ายมีกรอบอัตรากำลังเกิน ย้ายไปไม่ได้
9. การย้ายกรณีปกติ ยื่นได้ปีละ 2 ครั้ง
10. ช่วงย้ายครั้งที่ 1 ช่วงวันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ และครั้งที่ 2 ช่วงวันที่ 1-15 สิงหาคม
11. คำร้องขอย้ายที่ยื่นในครั้งที่ 1 ให้พิจารณาย้ายได้ถึง 31 กรกฎาคม ของปีเดียวกัน
12. คำร้องขอย้ายที่ยื่นในครั้งที่ 2 ให้พิจารณาย้ายได้ถึง 31 มกราคม ของปีถัดไป
13. กรณีย้ายไปอยู่หน่วยงานการศึกษาต่างเขตพื้นที่ หาก อ.ก.ค.ศ. อนุมัติ สำนักงานเขตพื้นที่จะต้องนำคำร้องเสนอเขตพื้นที่ ที่ขอย้ายไป ภายในช่วงที่ 1 คือ 1-15 ก.พ. ให้เสนอภายใน15 มี.ค. ของปีเดียวกัน หากเป็นช่วงที่ 2 คือ 1-15 สิงหา ให้เสนอคำร้องภายใน 15 ก.ย. สรุปคือ หาก อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่อนุมัติ เขตที่ยื่นขอย้ายต้องส่งคำขอไปยังเขตที่จะขอย้ายไปภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปนั่นเอง
14. คณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อพิจารณาคำร้องขอย้ายผู้บริหารสถานศึกษากำหนด อ.ก.ค.ศ เขตพื้นที่การศึกษา
15. คณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อพิจารณาคำร้องขอย้ายผู้บริหารสถานศึกษาประกอบด้วย
1. ผอ. เขต เป็นประธาน
2. รอง ผอ. เขต ผู้รับผิดชอบงานบริหารบุคคล เป็นรองประธาน
3. ตัวแทน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่ จำนวน 3 คน (ที่คิดว่าไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับการย้าย)
4. ผู้แทนผู้บริหาร 2 คน จากประถม หรือขยายโอกาส 1 คน จากมัธยมใหญ่อีก 1 คน
5. ผู้แทนกรรมการสถานศึกษา 2 คน จากประถม หรือขยายโอกาส 1 คน จากมัธยมใหญ่อีก 1 คน
6. หัวหน้ากลุ่มบริหารงานบุคคลในเขต 1 คน เป็นเลขานุการ
16. คณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อพิจารณาคำร้องขอย้ายผู้บริหารสถานศึกษามี 9 คน
17. เลขานุการคณะกรรมการกลั่นกรองการย้าย เพื่อพิจารณาคำร้องขอย้ายผู้บริหารสถานศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาคือ หัวหน้ากลุ่มบริหารงานบุคคลในเขตนั้น
18. ตัวแทนผู้บริหารและตัวแทนกรรมการสถานศึกษา ในคณะกรรมการกลั่นกลองเพื่อพิจารณาการย้ายผู้บริหารเป็นตัวแทนใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ไม่ได้
19. ขนาดโรงเรียนตามหลักเกณฑ์การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แบ่งขนาดสถานศึกษาเป็น 4 ขนาด จำแนกตามจำนวนนักเรียน ได้แก่
- ขนาดเล็ก จำนวนนักเรียน ตั้งแต่ 499 ลงมา
- ขนาดกลาง จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 500-1499 คน
- ขนาดใหญ่ จำนวนนักเรียนตั้งแต่ 1500-2499 คน
- ขนาดใหญ่พิเศษ จำนวนนักเรียน 2500 คนขึ้นไป
20. ผู้บริหารโรงเรียนที่สอนช่วงชั้นที่ 1-2 หรือ 1-3 ไม่สามารถย้ายไปโรงเรียนที่สอนช่วงชั้น 3-4
21. หากมีผู้ขอย้ายหลายคนให้พิจารณาองค์ประกอบดังนี้ ความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ คุณวุฒิ หรือวิชาเอก ผลการปฏิบัติงาน การรักษาวินัย หรือจรรยาบรรณ และความอาวุโสตามหลักราชการ
22. ผอ. ร.ร. ขนาดเล็ก สามารถย้ายเข้าโรงเรียนขนาดกลางได้ และต้องเป็นช่วงชั้นเดียวกัน และเป็นขนาดใกล้เคียงกันไม่เกิน 1 ขนาด
23. สถานศึกษาที่มีลักษณะเฉพาะ หรือมีวัตถุประสงค์พิเศษ คือ โรงเรียนในโครงการพระราชดำริ โรงเรียนที่จัดการศึกษาเน้นด้านวิทยาศาสตร์ โรงเรียนที่จัดการศึกษาสำหรับนักเรียนด้อยโอกาส หรือโรงเรียนที่จัดการศึกษาสงเคราะห์
24. การย้ายผู้บริหารโรงเรียนลักษณะพิเศษ หรือมีวัตถุประสงค์พิเศษ ไม่สามารถย้ายข้ามประเภทได้)
25. กรณีแต่งตั้งผู้บริหารวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ดำเนินการดังนี้ ให้ สพฐ เสนอ กคศ. พิจารณา
26. การย้ายเพื่อดูแลบิดา มารดา หรือคู่สมรสที่เจ็บป่วยร้ายแรงจะต้องมีคุณสมบัติ ต้องเป็นบุตรคนเดียว หรือบุตรซึ่งเหลืออยู่คนเดียว หรือเป็นคู่สมรสตามกฎหมาย
27. ผู้ประสงค์ขอย้ายกรณีพิเศษข้อ 1 เจ็บป่วยร้ายแรง สามารถยื่นคำร้องได้ตลอดปี
28. เลขาธิการ ก.ค.ศ. ปัจจุบันชื่อ นายประเสริฐ งามพันธ์
29. ลาป่วยต้องมีใบรับรองแพทย์คือ 30 วันทำการขึ้นไป (ลาไม่ถึง 30 วันทำการ ผู้อนุญาตเห็นสมควร จะสั่งให้มีใบรับรองแพทย์ประกอบใบลาก็ได้)
30. ลาคลอดบุตร สามารถลาได้ครั้งหนึ่ง 90 วัน โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์
31. ข้าราชการที่ยังไม่สมรส สามารถลาคลอดได้
32. การลาต่อเนื่องจากการลาคลอดบุตรถือเป็นการลาประเภท เป็นการลากิจ(ซึ่งลาได้ไม่เกิน 150 วันทำการ และไม่ได้รับเงินเดือน)
33. ลากิจส่วนตัวลาได้ไม่เกิน 45 วันทำการ
34. ในระหว่างลากิจส่วนตัวหากมีราชการจำเป็นเกิดขึ้น ผู้บังคับบัญชาจะเรียกตัวมาปฏิบัติราชการ ก็ได้ (ยกเว้นกรณีลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร)
35. การลานับวันลา นับเฉพาะวันทำการ
36. กรณีลากิจส่วนตัว หากมีเหตุจำเป็นไม่สามารถยื่นใบลาล่วงหน้า จะสามารถลาได้ (หากได้รับอนุญาต โดยสามารถยื่นใบลาได้ในวันแรกที่มาทำการ)
37. ข้าราชการครู ไม่มีสิทธิลาพักผ่อน(เพราะข้าราชการครูมีปิดเทอมอยู่แล้ว)
38. ลาพักผ่อน ผู้บังคับบัญชาสามารถเรียกตัวมาปฏิบัติราชการได้
39. การนับวันลานับตามปีงบประมาณ
40. ผู้ที่ลาอุปสมบทหรือไปประกอบพิธีฮัจจ์ ต้องไม่เคยอุปสมบท หรือไปประกอบพิธีฮัจจ์มาก่อน และต้องมีอายุราชการไม่น้อยกว่า 1 ปี
41. ผู้ที่ลาอุปสมบทหรือไปประกอบพิธีฮัจจ์สามารถลาได้ 120 วัน
42. หลักเกณฑ์การลาอุปสมบทหรือไปประกอบพิธีฮัจจ์ คือ
1. ให้เสนอใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ยื่นใบลาเสนอก่อนอนุญาต 60 วัน หากกรณีมีเหตุพิเศษ ไม่ อาจเสนอใบลาก่อน 60 วัน ให้ชี้แจงเหตุผลประกอบการลา
2. หากได้รับอนุญาตให้ลาได้ จะต้องอุปสมบทภายใน 10 วัน นับแต่วันลาหรือเดินทางไป ประกอบพิธีฮัจจ์
3. จะต้องกลับมารายงานตัวภายใน 5 วัน นับแต่ลาสิกขาบทหรือวันเดินทางกลับถึงประเทศไทย
43. ผู้ลาอุปสมบทจะต้องกลับมารายงานตัวหลังลาสิกขาบทแล้วภายใน 5 วัน
44. หากได้รับอนุญาตให้ลาอุปสมบท จะต้องอุปสมบทภายใน 10 วัน
45. การเข้ารับการตรวจเลือกหมายถึง การเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อรับราชการเป็นทหารประจำการ
46. เข้ารับการเตรียมพลหมายถึง เข้ารับการระดมพล เข้ารับการตรวจสอบพล เข้ารับการฝึกวิชาทหาร หรือเข้ารับการตรวจความพรั่งพร้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
47. การลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพล ลาได้ตามเวลาของภารกิจที่กำหนดไว้ในหมายเรียก
48. เมื่อพ้นจากการตรวจเลือก/เตรียมพล ต้องมารายงานตัวภายใน 7 วัน ขยายได้อีก แต่รวมแล้วไม่เกิน 15 วัน
49. ผู้ได้รับหมายเรียกจะต้องรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนเข้ารับการตรวจเลือกภายใน 48 ชั่วโมง นับแต่วันได้รับหมาย เรียก สำหรับเข้ารับการเตรียมพล ให้รายงานผู้บังคับบัญชาภายใน 48 ชั่วโมง นับแต่วันรับหมายเรียก
50. ผู้ที่จะลาไปทำงานในองค์การระหว่างประเทศ ต้องรับราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
51. ลาติดตามคู่สมรส หมายความว่าลาติดตามสามีหรือภรรยา ซึ่งไปปฏิบัติงานในต่างประเทศ ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ไม่รวมไปศึกษาต่อ อบรม ดูงาน
52. ลาติดตามคู่สมรสลาได้ไม่เกิน 2 ปี ลาต่อได้อีกไม่เกิน 2 ปี รวมแล้วไม่เกิน 4 ปี หากเกิน 4 ปี ให้ลาออก
53. ลาบ่อย คือผู้ปฏิบัติงานในสถานศึกษาลาเกิน 6 ครั้ง สำนักงาน ลาเกิน 8 ครั้ง
54. มาทำงานสายเนืองๆ คือผู้ปฏิบัติงานสถานศึกษาต้องสาย เกิน 8 ครั้ง สำนักงาน เกิน 9 ครั้ง
1. ตามหลักสูตรการสอบผู้บริหารสถานศึกษา ภาค ก ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี 2550 เกี่ยวกับความรู้ความสามารถด้านการบริหารงานในหน้าที่เรื่องการบริหารงาน วิชาการท่านคิดว่าข้อใดต่อไปนี้ที่กล่าวได้สอดคล้องด้านดังกล่าวมากที่สุด
ก. การบริหารและการจัดการศึกษา
ข. การบริหารและการจัดการเรียนการสอน
ค. การบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน(School Based Management)
ง. การบริหารการเปลี่ยนแปลง(Change Management)
เพราะ การบริหารและการจัดการศึกษาคือความหมายรวมของการบริหารโรงเรียน,การบริหารหลักสูตร,การบริหารวิชาการ
2. งานบุคคลและด้านการบริหารทั่วไป ไปยังคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือสถานศึกษา
ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค ปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยการมอบอำนาจจากปลัดกระทรวงศึกษาธิการหรือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
3. โรงเรียนบ้านดงใหม่ เป็นโรงเรียนระดับช่วงชั้นที่ 3 และ 4 สังกัด สพฐ. ท่านเป็นผู้อำนวยการคนใหม่ที่ได้ย้ายเข้ามาบริหาร เมื่อตรวจบัญชีเงิน พบว่า เจ้าหน้าที่การเงินได้จัดทำบัญชีเงินรายวัน ทุกๆ ครั้งเฉพาะที่มีการเบิกจ่ายหรือเปลี่ยนแปลง ยอด ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง
ก เจ้าหน้าที่การเงินทำถูกต้องแล้ว ท่านเพียงแต่ลงนามรับทราบ
ข เจ้าหน้าที่การเงินทำถูกต้องแล้ว ท่านเพียงแต่ลงนามผู้ตรวจสอบบัญชี
ค เจ้าหน้าที่การเงินทำไม่ถูกต้อง เพราะการจัดทำบัญชีให้จัดทำเฉพาะที่มีการเบิกจ่ายเท่านั้น
ง เจ้าหน้าที่การเงินทำไม่ถูกต้อง ควรจัดทำบัญชีเงินทุกวัน
4. หนังสือราชการในข้อใดแตกต่างจากพวก
ก. ประกาศ ข. แถลงการณ์
ค. ข่าว ง. ข้อบังคับ
5.ท่านเป็นผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านดงใหม่ ทำคำสั่งบรรจุแต่งตั้งครูผู้ช่วยจำนวน 1 คน พร้อมกันนั้นท่านได้ทำคำสั่งให้ครูอีก 3 ท่าน ประเมินครูผู้ช่วย คณะกรรมการประเมินครูผู้ช่วยต้องประเมินครูผู้ช่วยจำนวนกี่ครั้งจึงจะผ่าน การพัฒนาอย่างเข้ม 2 ปี
ก. 2 ครั้ง ข. 4 ครั้ง
ค. 8 ครั้ง ง. ไม่ระบุจำนวนครั้ง ประเมินกี่ครั้งก็ได้แล้วแต่ความเหมาะสม
6.ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน จะต้องทำเรื่องขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ประจำปี ครูคนหนึ่งในโรงเรียนท่านต้องการขอชั้นเครื่องราชฯ "ท.ช." แสดงว่าครูท่านนี้ได้รับเครื่องราชฯในชั้นก่อนหน้านี้มาแล้วไม่น้อยกว่ากี่ ปี
ก. 1ปี ข. 2 ปี
ค. 5 ปี ง. 7 ปี
7. กระทำผิดวินัยลักษณะใดที่ไม่ต้องตั้งกรรมการสอบสวนก็ได้
ก. ร้ายแรง ข. ปรากฏชัดแจ้ง ค. ร้ายแรงและปรากฏชัดแจ้ง ง. ไม่มีข้อถูก
8. การประเมินผลผลิต(Out put)ที่สำคัญของโรงเรียนของท่านที่เป็นผู้อำนวยการ คือการมองด้านใด
ก. ผลสัมฤทธิ์ของการสอบของนักเรียนสูงขึ้น
ข. ผลการสอบเข้าเรียนต่อทั้งหมดของนักเรียน
ค. ความสะอาดเรียบร้อย ร่มรื่นของบริเวณโรงเรียน
ง. ความสามารถและความประพฤติของนักเรียน
9.ในการใช้ผลจากการประเมินที่มีคุณค่าแก่ผู้บริหารการศึกษามากที่สุด คือการนำไปใช้ในด้านใด
ก. เลื่อนวิทยฐานะ ข. การสร้างโครงการใหม่
ค. การได้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด ง. การปรับปรุงการดำเนินงาน
10. ท่านเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดงใหม่ ท่านกล่าวว่า "โครงการนี้มีประสิทธิภาพที่สุด" ข้อใดต่อไปนี้สอดคล้องกับคำกล่าวนี้มากที่สุด
ก. เป็นโครงการที่สนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ในโรงเรียน
ข. เป็นโครงการที่ลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก
ค. เป็นโครงการที่บรรลุเป้าหมายตามที่ต้องการไว้มากที่สุด
ง. เป็นโครงการที่มีการวางแผน การปฏิบัติ การประเมินผลและการปรับปรุงแก้ไขเพื่อยกระดับคุณภาพตามวงจรพัฒนาคุณภาพของDeming
1 กรรมการโดยตำแหน่งในคณะกรรมการคุรุสภามีกี่คน...
ก. 8 ข. 9
ค. 10 ง. 7
2 การออกใบอนุญาตเป็นหน้าที่ของ..คณะกรรมการในข้อใด ......
ก. กรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ข. กรรมการคุรุสภา
ค. กรรมการ สกสค. ง. ประธานกรรมการ
3 คำว่า “ต้องรัก ศรัทธา ซื่อสัตย์ “เป็น จรรยาบรรณของครูตามข้อใด ...
ก. จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ ข. จรรยาบรรณต่อตนเอง
ค. จรรยาบรรณต่อสังคม ง. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
4ผู้ใดแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเองมีใบประกอบวิชาชีพมีโทษตามข้อใด
ก. .จำคุกไม่เกิน3ปีปรับไม่เกินหกหมื่นหรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. ข้อ ก และ ค
5 สมาชิกสามัญต่างจากสมาชิกกิตติมศักดิ์อย่างไร .....
ก. ไม่แตกต่างกัน
ข. กิตติมศักดิ์เลือกตั้งกรรมการไม่ได้
ค. สมาชิกแรกต้องจ่ายเงิน
ง. สมาชิกกิตติมศักดิ์ต้องเคยเป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา
6.คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดตามข้อต่อไปนี้ทุกข้อ ยกเว้นข้อใด
ก. ยกข้อกล่าวหา ข. ตักเตือน
ค. ทำทัณฑ์บน ง. เพิกถอนใบอนุญาต
7.ผู้แต่งตั้งสมาชิกกิติมศักดิ์ คือ
ก. คณะกรรมการคุรุสภา ข. คณะกรรมการ สกสค.
ค. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ ง. คำตอบเป็นอย่างอื่น
8. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการคุรุสภาซึ่ง ค.ร.ม.แต่งตั้งมีคุณสมบัติและความรู้ด้านต่างๆดังต่อไปนี้ทุกข้อ ยกเว้นข้อใด
ก. การอาชีวศึกษา ข. มนุษยศาสตร์
ค. กฎหมาย ง. รัฐศาสตร์
9.ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพควบคุม ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า...
ก. 18 ปี ข. 20 ปี
ค. 21 ปี ง. 22 ปี
10.มาตรฐานการปฏิบัติตน ให้กำหนดเป็นข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพจำนวนกี่ข้อ
ก. 4 ข. 5
ค. 6 ง. 7
11.ผู้อำนวยการองค์การค้าคุรุสภาคนปัจจุบันคือใคร
ก. จักรพรรดิ วะทา ข. บำเรอ ภานุวงศ์
ค. ชูชาติ ทรัพย์มาก ง. เสริมศักดิ์ วิศาลานนท์
12.สมาชิกของคุรุสภามีสองประเภทตามข้อใด
ก. สมาชิกสามัญ สมาชิกวิสามัญ ข. สมาชิกสามัญ สมาชิกกิตติมศักดิ์
ค. สมาชิกวิสามัญ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ง. สมาชิกกิตติมศักดิ์ สมาชิกคุณวุฒิ
13.คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา มีกี่คน
ก. 39 คน ข. 23 คน
ค. 17 คน ง. 14 คน
14.ผู้อำนวยการโรงเรียนรับครูที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเข้ามาสอนในโรงเรียนมีโทษตามข้อใด
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท
ข. จำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท
ง. จำคุกไม่ 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ตัวอย่างข้อสอบ พ.ร.บ.ครูฯ 2547
1. ผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ค.ศ มีกี่คน....
ก. 7 คน ข. 8 คน
ค. 9 คน ง. ไม่มีข้อถูก
2. วันใช้บังคับ พ.ร.บ.ครู 2547 ....
ก. 23 ธ.ค. ข. 24 ธ.ค.
ค. 25 ธ.ค. ง. หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา
3. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใน ก.ค.ศ. ไม่พ้นจากตำแหน่งตามข้อใด
ก. ล้มละลาย ข. ลาออกโดยยื่นหนังสือต่อประธานฯ
ค. ครม. มีมติให้ออก ง. ถูกเพิกถอนใบอนุญาต
4. พัฒนาระบบข้อมูลและจัดทำแผนกำลังคนฯเป็นหน้าที่ของ....
ก. ก.ค.ศ. ข. อ.ก.ค.ศ
ค. สำนักงานก.ค.ศ. ง. สพฐ.
5. การกำหนดตำแหน่งและอัตราเงินเดือนของครูและบุคลากรทางการศึกษาข้อใดถูก
ก. ต้องได้รับอนุมัติจากครม. ข. การเห็นชอบของค.รม.
ค. การเห็นชอบของ รมต. ง. การอนุมัติของ รมต.
6. บุคคลที่ไม่มีวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
ก. รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ข. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ค. รองฯสพท. ง. ผอ.สพท.
7. ผู้บังคับบัญชาสูงสุดในส่วนราชการกระทรวงศึกษาฯ
ก. ปลัดกระทรวง ข. เลขาฯสำนักงาน
ค. รมต. ง. เฉพาะ ก และ ข
8. การให้มีวิทยฐานะต้องผ่านการประเมินตามมาตรา54 คือประกอบด้วยองค์ประกอบกี่ด้าน
ก. 2 ข. 3
ค. 4 ง. 5
9. มาตรา 55 การประเมินวิทยฐานะถ้าไม่ผ่านจะทำตามข้อใด
ก. เพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ ข. พักใช้ใบประกอบวิชาชีพ
ค. ให้มีการพัฒนาตามมาตรา55(1) ง. ให้มีการอบรมเพื่อพัฒนา
10. ข้อใดไม่เป็นโทษทางวินัยร้ายแรง
ก. ขาดราชการเกิน 15 วัน ข. ขาดราชการเกิน 15 เพราะเจ็บป่วย
ค. ขาดราชการ 15 วัน ง. เฉพาะข้อ ข และ ค
11. กรณีไม่เลื่อนเงินเดือนให้ครูให้ผู้บังคับบัญชาแจ้งบุคคลตามข้อใดจึงจะถูกต้อง
ก. แจ้งผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไป 1 ลำดับ
ข. แจ้งให้ผู้นั้นทราบและบอกเหตุผล
ค. ทำตามข้อ ก แต่ต้องบอกเหตุผล
ง. ไม่ต้องแจ้งเพราะเป็นอำนาจของผอ.โรงเรียนอยู่แล้ว
12.โทษทางวินัยมีกี่สถาน
ก. 5 ข. 4
ค. 3 ง.6
13. โทษในข้อใดสามารถอุทธรณ์ต่อ อ.ก.ค.ศ
ก. ลดขั้นเงินเดือน ข. ปลดออก
ค. ไล่ออก ง. เฉพาะข้อ ข และ ค
14. ข้าราชการครูต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา แต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัตินั้นไม่ถูกต้อง ควรกระทำตามข้อใด
ก. ร้องทุกข์ ข. ร้องเรียน
ค. เสนอความเห็นเป็นหนังสือภายใน 7 วัน ง. ทุกข้อถูก
15. กรณีครูในข้อใดอาจถูกให้ออกจากราชการได้
ก. เมาสุราและมีสติ ข. เมาสุราขณะปฏิบัติราชการ
ค. เมาสุราคาบ้านพักครู ง. เมาสุราหน้าโรงเรียน
16. การกระทำข้อใดเป็นโทษทางวินัยร้ายแรง
ก. จ้างคนอื่นแปลบทคัดย่อ ข. จ้างคนอื่นหาค่าสถิติ
ค. นำผลงานคนอื่นมาดัดแปลงแก้ไข ง. คัดเลือกผลงานคนอื่นโดยได้รับอนุญาต
17. กรณีทำผิดวินัยโดยมีครูต่างเขตพื้นที่การศึกษาร่วมด้วยข้อใดถูกเกี่ยวกับการสอบสวน
ก. ประสานการดำเนินการร่วมกันในการตั้งกรรมการสอบสวน
ข. สอบสวนโดยแยกส่วนเป็นกรณีเฉพาะบุคคล
ค. สอบสวนทีละคนโดยคนละเขตพื้นที่ฯ
ง. ให้อำนาจผอ.โรงเรียนอยู่แล้ว
18. การอุทธรณ์โทษทางวินัย
ก. ภายใน 60 วัน ข. ภายใน 45 วัน
ค. ภายใน 30 วัน ง. ภายใน 90 วัน
19. โรคในข้อใดสามารถสมัครสอบครูได้
ก โรคเอดส์ ข โรคพิษสุราเรื้อรัง
ค โรคติดยาเสพติด ง วัณโรคระยะติดต่อ
20. ผอ.สถานศึกษามีอำนาจสั่งลงโทษทางวินัยที่ถูกต้องคือข้อใด
ก. ทำบันทึกข้อความ ข. ยื่น Notice
ค. ภาคทัณฑ์/ตัดเงินเดือน5% 1 เดือน ง. ลดขั้นเงินเดือนไม่เกิน 1 ขั้น 1 เดือน
21. กรณีในข้อใดมีผลทางกฎหมายครูทันที
ก. ครบกำหนดเวลาที่ยับยั้ง ข. หลังจากยับยั้ง90วัน
ค. เพิกถอนใบอนุญาต ง. ทุกข้อ
22. เงินประจำตำแหน่งเชี่ยวชาญพิเศษ
ก. 13,000 ข. 9,900
ค. 5,600 ง. 3,500
ตัวอย่างข้อสอบ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงฯ 2546
1.พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖ มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. 23 ธันวาคม 2546 ข. 24 ธันวาคม 2546
ค. 6 กรกฏาคม 2546 ง. 7 กรกฏาคม 2546
2.การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการตาม มาตรา 10 ให้มีส่วนราชการขึ้นตรงต่อรัฐมนตรี กี่ส่วน
ก. 7 ส่วน ข. 6 ส่วน
ค. 5 ส่วน ง. 4 ส่วน
3.การจัดระเบียบบริหารราชการของเขตพื้นที่การศึกษา ตาม พ.ร.บ.ฯแบ่งออกเป็นกี่ส่วน
ก. 2 ส่วน ข. 3 ส่วน
ค. 4 ส่วน ง. 5 ส่วน
4.ข้อใดไม่เป็นนิติบุคคล
ก. โรงเรียน ข. สพฐ.
ค. สพท. ง. เป็นนิติบุคคลทุกข้อ
5.ส่วนราชการข้อใดไม่อยู่ในสังกัดของ สพฐ.
ก. สำนักการคลังและสินทรัพย์ ข. สำนักทดสอบทางการศึกษา
ค. สำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ง. สำนักงาน ก.ค.ศ.
6.คณะกรรมการสภาการศึกษามีกี่คน
ก. 21 คน ข. 23 คน
ค. 27 คน ง. 59 คน
7.การแบ่งส่วนราชการเป็นกลุ่มงาน ในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ให้ทำเป็น
ก. ระเบียบ ข. กฎ
ค. ประกาศ ง. ข้อบังคับ
8.ส่วนราชการใน สพฐ. มีกี่สำนัก
ก. 5 สำนัก ข. 7 สำนัก
ค. 10 สำนัก ง. 12 สำนัก
9.การกระจายอำนาจและการมอบอำนาจ ใน พ.ร.บ.ฯให้เป็นไปตาม
ก. กฎกระทรวง ข. ระเบียบกระทรวง
ค. ประกาศกระทรวง ง. คำสั่งกระทรวง
10.การมอบอำนาจ ตาม พ.ร.บ.ฯ ให้ทำเป็น
ก. คำสั่ง ข. หนังสือ
ค. ลายลักษณ์ ง. ระเบียบ
ตัวอย่างข้อสอบ พ.ร.บ.การศึกษาภาคบังคับ พ.ร.บ. การศึกษาฯ 2542และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2545
1.ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา มีโทษตามข้อใด
ก. ปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ข. ปรับหนึ่งพันบาท
ค. ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ง. ปรับหนึ่งหมื่นบาท
2.ผู้ประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาคือข้อใด
ก. สถานศึกษา ข. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
3.การนับอายุเด็กเพื่อเข้าศึกษาภาคบังคับในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้นับตามข้อใด
ก. 6 ปีบริบูรณ์ ข. 7 ปี
ค. ย่างเข้าปีที่ 7 ง. ไม่เกิน 16 ปี เข้าเรียนได้
4.พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. 19 สิงหาคม 2542 ข. 20 สิงหาคม 2542
ค. 23 ธันวาคม 2542 ง. 24 ธันวาคม 2542
5.ข้อใดเป็นความหมายของ “การศึกษาขั้นพื้นฐาน” ตาม พ.ร.บ.ฯ
ก. การศึกษาภาคบังคับ ข. การศึกษาระดับขั้นพื้นฐาน
ค. การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา ง. การศึกษาระดับต่ำกว่าปริญญา
6. “ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่งและเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริมและกำกับดูแล...” ข้อความนี้ตรงกับข้อใด
ก. การศึกษาตลอดชีวิต ข. มาตรฐานการศึกษา
ค. การประกันคุณภาพการศึกษา ง. การศึกษา
7.ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2545 ไม่มีคำในข้อใด
ก. ผู้สอน ข. ครู
ค. คณาจารย์ ง. อาจารย์
8.การจัดการศึกษาให้ยึดหลักตามข้อใด
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
9.การศึกษาในระบบมีกี่ระดับ ตาม พ.ร.บ.ฯ
ก. 2 ระดับ ข. 3 ระดับ
ค. 4 ระดับ ง. ไม่กำหนดไว้
10. “การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด...” ข้อความข้างต้น ตรงตามข้อใดใน พ.ร.บ.ฯ
ก. มาตรา 17 ข. มาตรา 8
ค. มาตรา 9 ง. มาตรา 22
11. ผู้ปกครองที่ประสงค์จะขอผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับ ให้ยื่นคำร้องต่อใคร
ก. ผู้บริหารสถานศึกษา ข. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ง. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
12.คณะกรรมการพิจารณาการผ่อนผันให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังเกณฑ์ฯ มีกี่คน
ก. 5 คน ข. 4 คน
ค. 3 คน ง. 2 คน
13.ผู้ใดซึ่งมิใช่ผู้ปกครอง มีเด็กซึ่งไม่ได้เข้าเรียนในสถานศึกษาอาศัยอยู่ด้วย ต้องแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใน....
ก. 7 วัน ข. 15 วัน
ค. หนึ่งเดือน ง. หนึ่งปีการศึกษา
14.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องประกาศรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนการศึกษาภาคบังคับและต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษาเป็นเวลา ตามข้อใด
ก. ไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือน ข. ไม่น้อยกว่าหนึ่งภาคเรียนการศึกษา
ค. ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี ง. ไม่น้อยกว่าหนึ่งอาทิตย์
15.คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา มีกี่คน
ก. 9 คน ข. 15 คน ค. 21 คน ง. 31 คน
16.ข้อใดเป็นความหมายของ “การศึกษาภาคบังคับ” ตามพระราชบัญญัติฯที่ถูกต้องที่สุด
ก. การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
ข. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษา
แห่งชาติ
ค. การศึกษาชั้นปีที่ 1 ถึงระดับชั้นปีที่ 12
ง. การศึกษาตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จนกระทั่งถึงการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
17.การนับอายุเด็กเพื่อเข้ารับการศึกษาภาคบังคับ ให้นับตามข้อใด
ก. ตามปีศักราช ข. ตามปีงบประมาณ
ค. ตามปีการศึกษา ง. ตามปีปฏิทิน
18.การจัดสรรงบประมาณตามกฎกระทรวงฯแต่ละปีเป็นเงินอุดหนุนสำหรับคนพิการด้านสื่อและวัสดุการศึกษา ให้จัดตามข้อใดเมื่อเทียบกับการจัดสรรให้นักเรียนทั่วไป
ก. ไม่เกิน 2% ข. ในอัตราที่มากกว่า
ค. ในอัตราที่มากกว่าไม่เกิน 20% ง. ในอัตราที่มากกว่าแต่ไม่เกินห้าเท่า
19.การศึกษาขั้นพื้นฐาน แบ่งออกเป็นกี่ระดับ
ก. 1 ระดับ ข. 2 ระดับ ค. 3 ระดับ ง. 4 ระดับ
20.พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก 19 สิงหาคม 2542 ข 20 สิงหาคม 2542
ค 19 ธันวาคม 2545 ง 20 ธันวาคม 2545
ทบทวนความรู้วิชาภาคเช้า 100 ข้อ
Top of Form 1
1. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 9 หมวด 78 มาตรา
ข. 9 หมวด 87 มาตรา
ค. 9 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ง. 9 หมวด 87 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
2. ข้อใดคือความหมายของคำว่า การศึกษา ที่ถูกต้องที่สุด
ก. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึกการอบรมการสืบสานทางวัฒนธรรมการสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการการสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อมสังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ข. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
ค. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้าง องค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง
ง. กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
3. การศึกษาขั้นพื้นฐาน หมายถึง
ก. การศึกษาของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาก่อนอุดมศึกษา
ค. การศึกษาภาคบังคับ
ง. การศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัย
4. ข้อใดไม่ ถูกต้องตามความหมายของคำว่า สถานศึกษา ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย
ข. ศูนย์การเรียน
ค. วิทยาลัยชุมชน
ง. สถานพัฒนาเด็กเล็ก
5. ข้อใด ไม่จัด อยู่ในหมวด บุคลากรทางการศึกษา
ก. รองผู้อำนวยการโรงเรียน
ข. นักการภารโรง
ค. ครูอัตราจ้าง
ง. เจ้าหน้าที่พัสดุ
6. ใครมีอำนาจ ออกกฎกระทรวง เพื่อปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
7. ข้อใดสำคัญที่สุด
ก. ความมุ่งหมายและหลักการ
ข. โครงสร้างการจัดการศึกษา
ค. แนวทางการจัดการศึกษา
ง. สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา
8. คำว่า “ การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบรูณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้” มาจากหมวดใดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. หมวด 4
ข. หมวด 3
ค. หมวด 2
ง. หมวด 1
9. ข้อใด ไม่ใช่ หลักการจัดการศึกษา
ก. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
ข. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
ค. การพัฒนาสาระและคุณภาพการศึกษาให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ง. เป็นหลักการทุกข้อ
10. การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการจัดการศึกษา มีกี่ข้อ
ก. 4 ข้อ
ข. 5 ข้อ
ค. 6 ข้อ
ง. 8 ข้อ
11. ข้อใด ไม่ ถูกต้องตาม การจัดระบบ โครงสร้าง กระบวนการจัดการศึกษา
ก. การกำหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประเมินคุณภาพการศึกษา
ข. การส่งเสริมมาตรฐานวิชาชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ค. เอกภาพด้านนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบัติ
ง. ถูกต้องทุกข้อ
12. ข้อใด คือ การจัดการศึกษาสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ
ก. จัดตามศักยภาพที่เหมาะสมกับความสามารถ
ข. จัดตามอัธยาศัยที่เหมาะสมกับความสามารถ
ค. จัดตามรูปแบบที่เหมาะสมกับความสามารถ
ง. จัดเท่าเทียมผู้อื่นที่เหมาะสมกับความสามารถ
13. คำว่า “ยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่าผู้เรียนมีความสำคัญที่สุด” มาจากหมวดใดในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. หมวด 1
ข. หมวด 2
ค. หมวด 3
ง. หมวด 4
14. การกำหนดให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดทำสาระหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตราใด
ก. มาตรา 25
ข. มาตรา 26
ค. มาตรา 27
ง. มาตรา 28
15. ข้อใดเป็นลักษณะของหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก. สมบูรณ์แบบ
ข. ครบช่วงชั้น
ค. หลากหลาย
ง. มาตรฐาน
16. ข้อใด ไม่ใช่ องค์คณะบุคคลในรูปแบบสภา ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. สภาการศึกษา
ข. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ง. คณะกรรมการการศาสนาและวัฒนธรรม
17. สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มีฐานะเป็น
ก. นิติบุคคล
ข. องค์การมหาชน
ค. องค์กรเอกชน
ง. หน่วยงานในกำกับของรัฐ
18. ข้อใดถูกต้อง เกี่ยวกับการประเมินผลคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่ง
ก. ประเมินทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย
ข. ประเมินอย่างน้อยทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย
ค. ประเมินทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งแรก
ง. ประเมินอย่างต่ำทุกห้าปีนับตั้งแต่การประเมินครั้งสุดท้าย
19. ข้อใดหมายถึง “การศึกษาภาคบังคับ”
ก. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับ
ค. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาก่อนอุดมศึกษา
ง. การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึง ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาในระบบ
20. การกำหนดให้มีการศึกษาภาคบังคับ อยู่ในมาตราใดของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. มาตรา 15
ข. มาตรา 16
ค. มาตรา 17
ง. มาตรา 18
21. การแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งเด็กเข้าเรียนเป็นหนังสือให้ผู้ปกครองของเด็กทราบก่อนเด็กเข้าเรียนในสถานศึกษา มีกำหนดระยะเวลาเท่าใด
ก. ภายใน 1 ปี
ข. ไม่น้อยกว่า 1 ปี
ค. ภายใน 1 ภาคเรียน
ง. ไม่น้อยกว่า 1 ภาคเรียน
22. สถานศึกษามีอำนาจผ่อนผัน ให้เด็กเข้าเรียนก่อนหรือหลังอายุตามเกณฑ์การศึกษาภาคบังคับได้ในกรณีใด
ก. ตามคำสั่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ตามระเบียบที่สถานศึกษากำหนด
ค. ตามคำร้องขอของผู้ปกครองเด็ก
ง. ตามมติคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
23. ผู้ปกครองไม่ส่งเด็กเข้าเรียนตามการศึกษาภาคบังคับ มีโทษอย่างไร
ก. ปรับ 1,000 บาท
ข. ปรับไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
ค. ปรับไม่เกิน 1,000 บาท
ง. ปรับไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
24. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ประกาศใช้เมื่อใด
ก. 6 กรกฎาคม 2546
ข. 7 กรกฎาคม 2546
ค. 8 กรกฎาคม 2546
ง. 9 กรกฎาคม 2546
25. ข้อใด ไม่ใช่ การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
ก. สำนักงานปลัดกระทรวง
ข. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ค. สำนักงานนายกรัฐมนตรี
ง. เป็นการจัดระเบียบส่วนกลางทุกข้อ
26. วิทยาลัยชุมชนสังกัดส่วนราชการใด
ก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ค. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ง. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
27. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์สังกัดหน่วยงานใด
ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. สำนักงานการศึกษาพิเศษ
ค. สำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน
ง. องค์การบริหารส่วนจังหวัด
28. การจัดระเบียบเขตพื้นที่การศึกษาให้จัดทำเป็นกฎหมายใด
ก. ประกาศกระทรวงโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
ข. ประกาศกระทรวงโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. กฎกระทรวงโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. กฎกระทรวงโดยคำแนะนำของสภาการศึกษา
29. การจัดระเบียบสถานศึกษาขั้นพื้นฐานให้จัดทำเป็นกฎหมายใด
ก. ประกาศสำนักเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ประกาศคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ระเบียบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ระเบียบคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
30. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กล่าวไว้ในมาตราใดของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
ก. มาตรา 36
ข. มาตรา 37
ค. มาตรา 38
ง. มาตรา 39
31. ข้อใด ไม่ใช่ อำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการสถานศึกษาตามมาตรา 39 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
ก. บริหารกิจการของสถานศึกษา
ข. การจัดทำนิติกรรมสัญญาในราชการของสถานศึกษา
ค. ปฏิบัติงานอื่น ตามที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด
ง. เป็นอำนาจและหน้าที่ทุกข้อ
32. เรื่องใด ไม่ได้ กำหนดไว้ในการมอบอำนาจ
ก. การบริหารงบประมาณ
ข. การพิจารณาความดีความชอบ
ค. การกำหนดอัตราตำแหน่ง
ง. การดำเนินการทางวินัย
33. การรักษาราชการแทน กล่าวไว้ในหมวดใดของพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546
ก. หมวด 2
ข. หมวด 3
ค. หมวด 4
ง. หมวด 5
34. การกระจายอำนาจการจัดการศึกษา กำหนดไว้ใน พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 มาตราใด
ก. มาตรา 37
ข. มาตรา 38
ค. มาตรา 39
ง. มาตรา 40
35. ข้อใด ไม่ใช่ การกระจายอำนาจตามข้อ34
ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. อกคศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ง. สถานศึกษา
36. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มีกี่มาตรา
ก. 8 มาตรา
ข. 9 มาตรา
ค. 10 มาตรา
ง. 11 มาตรา
37. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 ยกเลิก/แก้ไข พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 กี่มาตรา
ก. 8 มาตรา
ข. 9 มาตรา
ค. 10 มาตรา
ง. 11 มาตรา
38. พระราชบัญญัติ สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 ประกาศใช้เมื่อใด
ก. 11 มิถุนายน 2546
ข. 12 มิถุนายน 2546
ค. 13 มิถุนายน 2546
ง. 14 มิถุนายน 2546
39. ใคร ไม่มี ส่วนเกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู
ก. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ข. คุรุสภา
ค. คณะกรรมการคุรุสภา
ง. คณะกรรมการ สกสค.
40. ประธานคณะกรรมการคุรุสภา มาจาก
ก. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ
ข. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิ
ค. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากกรรมการ
ง. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากกรรมการ
41. คณะกรรมการคุรุสภามีทั้งหมดกี่คน
ก. 15 คน
ข. 17 คน
ค. 23 คน
ง. 39 คน
42. คณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพมีทั้งหมดกี่คน
ก. 15 คน
ข. 17 คน
ค. 23 คน
ง. 39 คน
43. คณะกรรมส่งเสริมสวัสดิภาพและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษามีกี่คน
ก. 15 คน
ข. 17 คน
ค. 23 คน
ง. 39 คน
44. ใครเป็น ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิภาพและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
45. คุรุสภามีวัตถุประสงค์ คือ
ก. กำหนดมาตรฐานวิชาชีพครู
ข. กำหนดนโยบายและแผนพัฒนาวิชาชีพครู
ค. ส่งเสริมการวิจัยเกี่ยวกับวิชาชีพครู
ง. ถูกทุกข้อ
46. อัตราค่าธรรมเนียมการขอขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
ก. 200 บาท
ข. 300 บาท
ค. 400 บาท
ง. 500 บาท
47. อัตราค่าต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
ก. 200 บาท
ข. 300 บาท
ค. 400 บาท
ง. 500 บาท
48. อัตราค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
ก. 200 บาท
ข. 300 บาท
ค. 400 บาท
ง. 500 บาท
49. อัตราค่าหนังสืออนุมัติ หรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพทางการศึกษา คือ
ก. 200 บาท
ข. 300 บาท
ค. 400 บาท
ง. 500 บาท
50. อัตราค่าใบแทนใบอนุญาต คือ
ก. 200 บาท
ข. 300 บาท
ค. 400 บาท
ง. 500 บาท
51. คณะกรรมการคุรุสภาที่มาจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาที่ดำรงตำแหน่งครู มีคุณสมบัติ คือ
ก. สอนมาไม่น้อยกว่า 10 ปี
ข. ดำรงตำแหน่งอาจารย์ 3
ค. มีวิทยฐานะชำนาญการขึ้นไป
ง. ถูกทุกข้อ
52. ใครคือ ประธานกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา
ง. คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุรุสภา
53. ผู้ประสงค์ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูให้ยื่นต่อผู้ใคร
ก. ประธานคณะกรรมการคุรุสภา
ข. ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. ประธาน ส.ก.ส.ค.
54. ถ้าคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพไม่ออกใบอนุญาตให้ ผู้ยื่นคำขอมีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อใคร
ก. คณะกรรมการคุรุสภา
ข. ประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ
ค. เลขาธิการคุรุสภา
ง. รัฐมนตรี
55. ข้อใด ไม่ใช่ มาตรฐานวิชาชีพ
ก. มาตรฐานการปฏิบัติตน
ข. มาตรฐานการปฏิบัติงาน
ค. มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ
ง. มาตรฐานตำแหน่งและประสบการณ์วิชาชีพ
56. การประกอบวิชาชีพครูโดย ไม่ได้ รับใบอนุญาตต้องได้รับโทษ คือ
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
57. การประกอบอาชีพครูในระหว่างพักใบอนุญาตต้องได้รับโทษ คือ
ก. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
58. การยื่นต่อใบอนุญาต ต้องดำเนินการเมื่อใด
ก. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 180 วัน
ข. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 90 วัน
ค. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 30 วัน
ง. ก่อนวันที่ใบอนุญาตหมดอายุไม่น้อยกว่า 15 วัน
59. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ประกาศใช้เมื่อใด
ก. 21 ธันวาคม 2547
ข. 22 ธันวาคม 2547
ค. 23 ธันวาคม 2547
ง. 24 ธันวาคม 2547
60. ผู้รับสนองพระราชโองการ พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 คือ
ก. นายวิษณุ เครืองาม
ข. พ.ต.ท.ทักษิน ชินวัตร
ค. นายบรรหาร ศิลปอาชา
ง. พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ
61. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มีกี่หมวดกี่มาตรา
ก. 9 หมวด 140 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 9 หมวด 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ค. 9 หมวด 82 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ง. 9 หมวด 150 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
62. ข้อใดไม่ใช่บุคลากรทางการศึกษาตามพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
ก. ข้าราชการครู
ข. ผู้บริหารการศึกษา
ค. ผู้บริหารสถานศึกษา
ง. เป็นบุคลากรทางการศึกษาทั้ง 3 ข้อ
63. ก.ค.ศ. ตามพรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มีกี่คน
ก. 9 คน
ข. 15 คน
ค. 21 คน
ง. 28 คน
64. ใครเป็นผู้กำหนดเวลาการทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปี และการลาหยุดของข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี
ข. คณะรัฐมนตรี
ค. ก.ค.ศ.
ง. สำนักงานข้าราชการพลเรือน
65. ใครมีหน้าที่ ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ก. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ค. อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
ง. กลุ่มบริหารงานบุคคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
66. ใครเป็นผู้นำความกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯแต่งตั้งตำแหน่งที่มี วิทยะฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
ก. เลขาธิการ สพฐ.
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. นายกรัฐมนตรี
ง. ปลัดกระทรวงกระทรวงศึกษาธิการ
67. ใครคือ ประธานกรรมการในการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับแต่งตั้ง
68. การพ้นจากไปรับราชการทหาร แล้ว มีความประสงค์จะเข้ากลับเข้ารับราชการครูต้องยื่นเรื่องภายในกี่วันนับแต่วันพ้นจากราชการทหาร
ก. 60 วัน
ข. 90 วัน
ค. 120 วัน
ง. 180 วัน
แนวข้อสอบ พลวัต
1. กีฬาแห่งชาติจัดขึ้นที่จังหวัดตรังเป็นครั้งที่เท่าใด
ก. ครั้งที่35 ข. ครั้งที่ 36
ค. ครั้งที่37 ง. ครั้งที่38
2. นางงามจักรวาล 2009 เป็นชนชาติใด
ก. สหรัฐ ข. เวเนซุเอลา
ค. เม็กซิโก ง. ปานามา
3. บาลัค โอบามา เป็นประธานาธิบดีคนที่เท่าไรของสหรัฐ
ก. คนที่ 41 ข. คนที่ 42
ค. คนที่ 43 ง. คนที่ 44
4. นายกฯอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่เท่าไรของไทย
ก. คนที่ 26 ข. คนที่ 27
ค. คนที่ 28 ง. คนที่ 29
5. พรรค democrat หมายถึงพรรคใด
ก. พรรคเพื่อไทย ข.พรรคประชาธิปัตย์
ค. พรรครวมใจไทย ง. พรรคชาติไทย
6. ข้อใดไม่ใช่โรงเรียนดี 3 ระดับ
ก. ชาติ ข.จังหวัด
ค. อำเภอ ง. ตำบล
7. นางงามตัวแทนประเทศไทยได้รับรางวัลชนะเลิศอะไรในงานนางงามจักรวาล 2009
ก. ชุดประจำชาติ ข. ขวัญใจช่างภาพ
ค. นางงามมิตรภาพ ง. ผิดทุกข้อ
8. หนังสือใดเป็นหนังสือ 6 เล่มที่ควรมีในห้องสมุด
ก. พระอภัยมณี รามเกียรติ์ สังข์ทอง อิเหนา พระราชพิธี 12 เดือน กาบเห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง
ข. พระอภัยมณี รามเกียรติ์ นิทานชาดก อิเหนา ปลาบู่ทอง กาบเห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง
ค. นิทานชาดก อิเหนา พระอภัยมณี รามเกียรติ์ พระราชพิธี 12 เดือน นิทานพื้นบ้าน
ง. พระอภัยมณี รามเกียรติ์ นิทานชาดก อิเหนา พระราชพิธี 12 เดือน กาบเห่เรือเจ้าฟ้ากุ้ง
9. ข้อใดหมายถึง SP 2
ก. super package 2 ข. Stimulus package 2
ค. super pack 2 ง. Stimulus pack 2
10. โครงการใดอยู่ใน SP 1
ก. ห้องสมุด 3 ดี ข. เรียนฟรี 15 ปี
ค. ศูนย์กลางศึกษาภูมิภาค ง. ยกระดับครูทั้งระบบ
11. โครงการ HAS เกี่ยวข้องกับสิ่งใด
ก. ห้องสมุด ข. แหล่งเรียนรู้
ค. ส้วม ง. ห้องพิเศษ
12. ในหลวงพระราชทานชื่อ King Bhumibol เกี่ยวข้องกับดอกไม้ชนิดใด
ก. กุหลาบ ข.กล้วยไม้
ค. ทิวลิป ง. เยอบิวร่า
13. ไข้หวัดใหญ่ 2009 มีชื่อว่า
ก. Influenza A ( H5 N 1 ) ข. Influenza A ( H1 N 1 )
ค. Influza A ( H1 N 1 ) ง. Influza A ( H5 N 1 )
14. ยาต้านไวรัสชนิดใดใช้รักษาไข้หวัดใหญ่ 2009
ก. โอเซลทามิเวียร์ ข. ทาร์มิไซนอล
ค. แอสไพริน ง. พาราเซตามอล
15. พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2552 มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. 14 ก.พ. 2551 ข. 14 ก. พ. 2552
ค. 23 ก.ค. 2551 ง. 23 ก.ค. 2552
16. รมต.จุลินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ลงนามเรื่อง การปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2552 วันที่เท่าไร
ก. 14 ก.พ. 2551 ข. 14 ก. พ. 2552
ค. 23 ก.ค. 2551 ง. 23 ก.ค. 2552
17.รมต.จุลินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ลงนามเรื่อง การปฏิบัติตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2552 ออกเป็นอะไร
ก. ระเบียบกระทรวง ข. กฎกระทรวง
ค. ประกาศกระทรวง ง. ไม่ใช่ทั้งสามข้อ
18. วันครูโลกตรงกับวันที่เท่าไร
ก. 16 มกราคม ข. 5 ตุลาคม
ค. 13 ตุลาคม ง. 2 เมษายน
19. กิจกรรม เมื่อวันที่ 9/09/2009 เรียกว่าวันอะไร
ก. 9 เพื่อในหลวง ข. 9 ในดวงใจ
ค. ก้าวไปในใจ ง. ก้าวในดวงใจ
20. ข้อใดไม่ใช่ 5 รั้วป้องกันยาเสพติด
ก. รั้วบ้าน ข.รั้วสถานบันเทิง
ค.รั้วชายแดน ง. รั้วสังคม
21.การแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2009 ครั้งที่ 15 จัดที่เมืองใด
ก. ศรีสะเกษ ข. หนานเหอ
ค. ฮานอย ง. โตเกียว
22.ทีมที่ได้แชมป์เอเชียของการแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิง 2009 ได้สิทธิไปแข่งขันระดับโลก เป็นจำนวนทั้งหมดกี่ทีม
ก. 1 ทีม ข. 2 ทีม
ค. 1 ทีม ครึ่ง ง. 2 ทีม ครึ่ง
23.แชมป์เอเชียวอลเล่ย์บอลหญิง ปี 2009 คือทีมใด
ก. ไทย ข. จีน
ค. ญี่ปุ่น ง. เกาหลีใต้
24.ผู้เล่นทรงคุณค่า(MVP)ของทัวนาเมนท์วอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2009 คือใคร
ก. ยู่หมิง – จีน ข. นามิโอะ - ญี่ปุ่น
ค. ซอง ควาน – เกาหลีใต้ ง. อรอุมา สิทธิรักษ์ - ไทย
25.การแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกจะแข่งขันทั้งหมดกี่ทีม
ก. 5 ทีม ข. 6 ทีม
ค. 7 ทีม ง. 8 ทีม
26.ผู้ใดเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมของนักวอลเล่ย์บอลจากหญิงจากประเทศไทยในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย 2009
ก. อรอุมา สิทธิรักษ์ ข. ปลิ้มจิตร ถิ่นขาว
ค. วันนา บัวแก้ว ง. นุศรา ต้อมคำ
27.การแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2009 จัดที่ใด
ก. จีน ข. ญี่ปุ่น
ค. เกาหลีใต้ ง. ไทย
28.แชมป์หญิงเดี่ยว ยูเอส โอเพ่น 2009
ก. วีนัส วิลเลี่ยม ข. เซเรน่า วิลเลี่ยม
ค. มาเรีย ซาราโปว่า ง. คิม ไคส์เรอร์
29. แชมป์ชายเดี่ยว ยูเอส โอเพ่น 2009
ตอบ ฮวน มาร์ติน เดล โปโตร
30.การแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2010 จัดที่ใด
ก. บราซิล ข. แอฟริกาใต้
ค. ชิลิ ง. ไอเวอร์รี่โคส
31.การแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ของ สพฐ. 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1 ทีมใดได้แชมป์
ก. สตูล ข. ปัตตานี 2
ค. ยะลา ง. นราธิวาส
32. "ป๊อด" คือใคร
ก. พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ข. พล.อ ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ
ค. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ง. พล.ต.อ.จุมพล มั่นหมาย
33. "ผีหลอนไก่..เป็นง่อย.." หัวข้อข่าวกีฬานี้ ไก่ หมายถึงทีมฟุตบอลทีมใด
ก. อาเซนอล ข. สเปอร์
ค. เอฟเวอร์ตัน ง. แอสตันวิลล่า
34.พ่อของ หลินปิง ชื่ออะไร
ก. หลินฮุ่ย ข. ไทปิง
ค. ช่วงช่วง ง. เหอหนาน
35.ใครเป็นคนเซ็นต์ชื่อในประกาศผลการสรรหาและ/หรือการสอบผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ก. ดร.ชินภัทร ฯ ข. ดร.กษมา
ค. รมต.จุรินทร์ฯ ง. ไม่มีข้อถูก
36.นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ของประเทศไทยเดินทางไปประชุมกลุ่มประเทศ G-20 ในช่วงเดือนกันยายน 2552 ที่ประเทศใด
ก. อังกฤษ ข. สหรัฐอเมริกา
ค. จีน ง. ออสเตรเลีย
37.บุคคลในข้อใดไม่เข้าพวก
ก. ศรันยู วงศ์กระจ่าง ข. พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์
ค. เมธี อมรวุฒิกุล ง. กรุง ศรีวิไล
38.ประชากรจากประเทศใดไม่ใช่ประเทศเป้าหมายที่ปรากฏในแผน sp2 ตามโครงการ Ed Hub
ก. จีน ข. เวียตนาม
ค. ลาว ง. ญี่ปุ่น
39.เด็กชายหม่อง ทองดี ไปแข่งขันเครื่องบินพับกระดาษรุ่นอายุตามข้อใด
ก. ไม่เกิน 10 ปี ข. ไม่เกิน 11 ปี
ค. ไม่เกิน 12 ปี ง. ไม่เกิน 13 ปี
40.มัสคอต ประจำสำหรับการแข่งขันกีฬาแห่งชาติครั้งที่ 38 คือข้อใด
ก. นกเป็ดน้ำ ข. พะยูน
ค. โลมา ง. ฉลาม
41.ฉายา "ปลาทูคะนอง"เป็นชื่อของสโมสรฟุตบอลไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกทีมใด
ก. สมุทรสงคราม ข. ชลบุรี เอฟซี
ค. พัทยา ยูไนเต็ด ง. ศรีราชา เอฟซี
42. นายเฉิน สุ่ย เปียน อดีตประธานาธิบดีของไต้หวัน ถูกศาลพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตด้วยข้อหาใด
ก. สั่งตำรวจสลายม็อบด้วยวิธีรุนแรง ข. ลงนามข้อตกลงทำให้เสียดินแดน
ค. ทุจริตคอรัปชั่นหลายคดี ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
43.คณะองคมนตรีมีกี่คน
ก. 19 คน ข. 18 คน
ค. 5 คน ง. 4 คน
44.นายวิชา มหาคุณ ที่ถูกปาระเบิดใส่บ้านที่พัก เป็นใคร
ก. คนเสื้อแดง ข. คนเสื้อเหลือง
ค. องคมนตรี ง. ป.ป.ช.
45.โรคมาลาเรียสายพันธุ์ใหม่ที่ติดต่อจากปรสิตชื่อ Plasmodium knowlasi ติดต่อจากลิงสู่คนและเริ่มระบาดเข้ามาในประเทศไทย มาจากประเทศใด
ก. กัมพูชา ข. มาเลเซีย
ค. เมียนมาร์ ง. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
46.ข้อใดเป็นวันชาติของประเทศ People's Republic of China
ก. 1 ตุลาคม ข. 5 ตุลาคม
ค. 7 ตุลาคม ง. 14 ตุลาคม
47.ทีมฟุตบอลระดับไทยแลนด์พรีเมียร์ลีกมีทั้งหมดกี่สโมสรในฤดูกาล 2009
ก. 12 ทีม ข. 14 ทีม
ค. 16 ทีม ง. 17 ทีม
48.การแข่งขันเทนนิสระดับแกรนด์สแลมด์สุดท้ายของปี 2009 คือข้อใด
ก. ออสเตรเลียน โอเพ่น ข. ไทยแลนด์ โอเพน
ค. ยูเอส โอเพ่น ง. ดูไบ โอเพ่น
49.ประเทศในโซนเอเชียที่ไม่ได้เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก ปี 2010 คือข้อใด
ก. ซาอุดิอาระเบีย ข. ญี่ปุ่น
ค. เกาหลีใต้ ง. ออสเตรเลีย
50.การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ “ตรังเกมส์” จัดขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไร
ก. 37 ข. 38
ค. 39 ง. 40
51.ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนแรกคือใคร
ก. พ.ต.ท.เสรี เตมียะเวศ ข. พ.ต.ท.ประชา พรหมนอก
ค. พ.ต.ท.ประทิน สันติประภพ ง. พ.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
52. บุคคลที่มีอายุเท่าใดกระทำความผิดแล้วไม่ต้องรับผิดตามกฎหมาย
ก. 10 ปี ข. 11 ปี
ค. 18 ปี ง. 21 ปี
53. ตามกฎหมายเหล้าล่าสุดเวลาใดสามารถจำหน่ายเหล้าได้
ก. 10.00 – 14.00 น. ข.11.00 – 14.00 น.
ค.13.00 น.- 17.00 น. ง.15.00 น.- 18.00 น.
54. ตามกฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ล่าสุด ใน 1 ปี ห้ามจำหน่ายสุรากี่วัน
ก. 1 ข. 2
ค. 3 ง. 4
55. กรณีนักศึกษา กศน.ดักจับพาสเวอร์สและหมายเลขบัญชีโอนเงินเข้าบัญชีตัวเองมีความผิดต้องได้รับโทษ
ก. จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ข.จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท
ค.จำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท ง.จำคุก 4 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท
56. การที่นักเรียนหญิงไปบ้านนักเรียนชายในลักษณะชู้สาว และผู้ปกครองฝ่ายหญิงแจ้งความ
กรณีอายุฝ่ายหญิงเท่าใดฝ่ายชายต้องรับผิดเสมอ
ก. ต่ำกว่า 15 ปี ข.ต่ำกว่า 16 ปี
ค.ต่ำกว่า 17 ปี ง.ต่ำกว่า 18 ปี
57. นโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา มีกี่ข้อ
ก. 6 ข้อ ข. 8 ข้อ
ค. 10 ข้อ ง. 12 ข้อ
58. สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้เสนอแนวทางการปฏิรูปการศึกษา ข้อใดไม่ใช่
ก. พัฒนาคุณภาพการศึกษา ข. การผลิตและพัฒนาครู
ค. เพิ่มโอกาสทางการศึกษา ง. ถูกทุกข้อ
59. นโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 มาตราใด
ก. มาตรา 39 ข. มาตรา 49
ค. มาตรา 59 ง. มาตรา 69
60. ข้อใดคือค่าใช้จ่ายตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ
ก. หนังสือเรียน ข. อุปกรณ์การเรียน
ค. เครื่องแบบนักเรียน ง. ถูกทุกข้อ
61. "รับผิดชอบชั่วดี" ตรงกับข้อใดของนโยบาย 3 D
ก. Decency ข. Democracy
ค. Drug ง. December
62. นโยบายรัฐบาลด้านการศึกษาได้แถลงต่อรัฐสภา เมื่อใด
ก. 27 ธันวาคม 2551 ข. 29 ธันวาคม 2551
ค. 30 ธันวาคม 2551 ง. 2 พฤศจิกายน 2551
63. ข้อใดไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายรัฐบาลด้านการศึกษา
ก. ปฏิรูปการศึกษาทั้งระบบ
ข. พัฒนาครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา
ค. ยกระดับคุณภาพมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ
ง. ส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชนใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศเชิงสร้างสรรค์
64. โครงการใดของรัฐบาลที่ช่วยลดภาระงานครูที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอน
ก. โครงการเรียนฟรี 15 ปี อย่างมีคุณภาพ
ข. โครงการนโยบาย 3 ดี
ค. โครงการคืนครูให้นักเรียน
ง. โครงการ 9 ในดวงใจ
65. นโยบายรัฐบาล "จัดให้ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาฟรี 15 ปี" ข้อใดถูกต้อง
ก. ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
ข. ตั้งแต่ประถมศึกษาไปจนถึงปริญญาตรี
ค. ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงระดับปริญญาตรี
ง. ตั้งแต่อนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
66. "การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเชิงสร้างสรรค์อย่างชาญฉลาด" สอดคล้องกับข้อใด
ก. เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้
ข. เพื่อสร้างเสริมความรู้และทักษะ
ค. เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ความรู้ด้านเทคโนโลยี
ง. เพื่อเป็นเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูล อินเทอร์เน็ต
67.ตามแผนฯ10 การลดสัดส่วนผู้อยู่ใต้เส้นความยากจนลง เมื่อสิ้นสุดแผนเป็นเท่าใด
ก. ลดลงเหลือร้อยละ 2 ข. ลดลงเหลือร้อยละ 4
ค. ลดลงเหลือร้อยละ 5 ง. ลดลงเหลือร้อยละ 7
68.ตามแผนฯ10กำหนดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปตามข้อใด
ก. เฉลี่ยร้อยละ 3.0-3.5/ปี ข. เฉลี่ยร้อยละ 4.0-4.5/ปี
ค. เฉลี่ยร้อยละ 5.0-5.5/ปี ง. เฉลี่ยร้อยละ 6.0-6.5/ปี
69.แผนฯ10เป็นแผนยุทธศาสตร์ระยะใด
ก. ระยะสั้น ข. ระยะปานกลาง
ค. ระยะยาว ง. ระยะชั่วคราว
70.ตามแผนฯ10 มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาเป็นเท่าใด(ต่อคน)
ก. 1 ต่อ 10 ข. 1 ต่อ 100
ค. 10 ต่อ 1000 &n
1. ข้าราชการครูซึ่งปฏิบัติราชการที่สถานศึกษา ไม่มีสิทธิลาประเภทใด
ก. ลากิจส่วนตัวเพื่อเลี้ยงดูบุตร
ข. ลาพักผ่อน
ค. ลาอุปสมบท
ง. ลาเข้ารับการตรวจเลือก
2. ผู้มีอำนาจอนุญาตให้ข้าราชการครู(สพฐ.) ลาอุปสมบทคือ
ก. ผู้อำนวยการโรงเรียน
ข. ผู้อำนวยการ สพท.
ค. เลขาธิการ กพฐ.
ง. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
3. ผู้อำนวยการสถานศึกษามีอำนาจพิจารณาอนุญาตให้ช้าราชการครูลาป่วยและลากิจส่วนตัวครั้งหนึ่งได้ตามข้อใด
ก. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 15 วัน
ข. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 20 วัน
ค. ลาป่วย 90 วัน ลากิจส่วนตัว 30 วัน
ง. ลาป่วย 60 วัน ลากิจส่วนตัว 30 วัน
4. ผู้ที่จะขออุปสมบทต้องยื่นใบลาก่อนวันอุปสมบทไม่น้อยกว่ากี่วัน
ก. 15 วัน
ข. 30 วัน
ค. 60 วัน
ง. 90 วัน
5. การลาประเภทใดไม่ต้องรอคำสั่งอนุญาตจากผู้มีอำนาจอนุญาต
ก. การลาไปประกอบพิธีฮัจย์
ข. ลาเข้ารับการตรวจเลือก
ค. ลากิจส่วนตัว
ง. ลาพักผ่อน
6. ข้าราชการมีสิทธิลาติดตามคู่สมรสได้ไม่เกินกี่ปี
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 4 ปี
ง. 5 ปี
7. วันลาตามข้อใดนับเฉพาะวันทำการ
ก. ลากิจส่วนตัว
ข. ลาพักผ่อน
ค. ลาป่วย
ง. ถูกทุกข้อ
8. ข้าราชการครูจะได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้นเงินเดือนในรอบครึ่งปีที่แล้วมาต้องมีเวลาปฏิบัติราชการกี่เดือน
ก. 3 เดือน
ข. 4 เดือน
ค. 5 เดือน
ง. 6 เดือน
9. ในรอบครึ่งปีที่แล้วมาข้าราชการที่จะได้เลื่อนขั้นเงินเดือน ต้องมีวันลากิจส่วนตัวและลาป่วยไม่เกินกี่วัน
ก. 45 วัน
ข. 46 วัน
ค. 22 วัน
ง. 23 วัน
10. ข้าราชการซึ่งลาเกินจำนวนครั้งที่กำหนด แต่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่น ผู้บังคับบัญชาซึ่งมีอำนาจสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน อาจพิจารณาผ่อนปรนให้เลื่อนขั้นเงินเดือนได้ ถ้าวันลาไม่เกินกี่วันทำการ
ก. 15 วันทำการ
ข. 10 วันทำการ
ค. 7 วันทำการ
ง. 5 วันทำการ
11. ข้าราชการมาปฏิบัติราชการไม่ได้ เป็นเพราะเหตุพฤติการณ์พิเศษจริงซึ่งให้หยุดราชการได้โดย
ก. ถือเป็นวันลากิจส่วนตัว
ข. ไม่นับเป็นวันลา ตามจำนวนวันที่ไม่สามารถมาปฏิบัติราชการได้
ค. สั่งพักราชการ
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
12. ลากิจโดยไม่ส่งใบลากิจ แม้ว่า ผู้อำนวยการสถานศึกษาจะเตือนแล้วถึง 3 ครั้ง มีความผิดกรณีใด
ก. ละทิ้งหน้าที่ราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร
ข. ไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบธรรมเนียมของทางราชการ
ค. ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง
ง. รายงานเท็จ
13. ข้าราชการที่ถูกเรียกตัวกลับมาปฏิบัติราชการ ระหว่างการลาให้ถือว่าการลาหมดเขตลงเมื่อใด
ก. วันก่อนวันเดินทางกลับมาปฏิบัติหน้าที่ราชการ
ข. วันเดินทางกลับมาปฏิบัติราชการ
ค. วันเข้ารายงานตัวเพื่อกลับเข้าปฏิบัติราชการ
ง. วันปฏิบัติราชการวันแรก
14. การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษามีความมุ่งหมายที่สำคัญอย่างไร
ก. เพื่ออบรมสั่งสอน
ข. เพื่อให้เข็ดหลาบ
ค. เพื่อให้นักเรียนหรือนักศึกษาปฏิบัติตามระเบียบ
ง. ข้อ ก และข้อ ข
15. ข้อใดไม่ใช่ การลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่อยู่ในปัจจุบัน
ก. ว่ากล่าวตักเตือน
ข. ตัดคะแนนความประพฤติ
ค. ทำทัณฑ์บน
ง. พักการเรียน
16. โทษที่จะลงโทษแก่นักเรียนหรือนักศึกษาที่กระทำผิดกี่สถาน
ก. 3 สถาน
ข. 4 สถาน
ค. 5 สถาน
ง. 6 สถาน
17. ผู้มีอำนาจลงโทษนักเรียน หรือนักศึกษาคือผู้ใด
ก. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ข. รองผู้อำนวยการสถานศึกษา
ค. ครูประจำชั้น
ง. ถูกทุกข้อ
18. สถานศึกษาระดับใดมีอำนาจลงโทษได้ทุกสถาน
ก. ระดับประถมศึกษาที่เปิดสอนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
ข. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นทุกสังกัด
ค. ระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญและสายอาชีพ
ง. ทุกระดับ ลงโทษได้ทุกสถาน
19. ข้อใดเป็นเวลาทำงานของข้าราชการทั่วไป
ก. 08.00-16.00 น.
ข. 08.15-16.30 น.
ค. 08.30-16.30 น.
ง. 08.30-16.45 น.
20. หน่วยงานใดเป็นผู้กำหนดเวลาทำงานของข้าราชการทั่วไป
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. กระทรวง
ค. สำนักนายกรัฐมนตรี
ง. กรม
21. ข้อใดเป็นเวลาทำงานของข้าราชการครูที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาทั่วไป
ก. 08.00-16.00 น
ข. 08.15-16.30 น.
ค. 08.30-16.30 น.
ง. 08.30-16.45 น.
------------
1.ข้อใดเกี่ยวข้องกับการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์น้อยที่สุด
ก. KPI
ข. CSF
ค. INPUT
ง. OUTPUT
2. กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกันจับทำ“โครงการเด็กไทยแข็งแกร่ง เมืองไทยแข็งแรง” ประจำปีงบประมาณ 2551-2552 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประสานงานกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อ1.คัดเลือกโรงเรียน จัดกิจกรรมสำหรับถ่ายทอดสด ในวันเปิดตัวโครงการเด็กไทยแข็งแกร่ง เมืองไทยแข็งแรง 2. แจ้งโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศจัดกิจกรรมออกกำลังกายในวัน เวลา เดียวกัน ในวันเปิดตัวโครงการฯ 3. กำกับดูแลให้โรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศจัดกิจกรรมออกกำลังกายนอกหลักสูตรให้นักเรียนออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันเปิดเรียน ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ 3 ข้อ ข้อใดไม่ใช่วัตถุประสงค์ของโครงการนี้
ก. เพื่อให้นักเรียนออกกำลังกายห่างไกลยาเสพติด
ข. เพื่อลดปัญหาการเจ็บป่วยและโรคอ้วนในนักเรียน
ค. เพื่อให้นักเรียนมีสมรรถภาพทางกายเต็มตามศักยภาพ
ง. เพื่อให้โรงเรียนจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตรให้นักเรียนมีโอกาสออกกำลังกายทุกวัน
3. การเขียนวิสัยทัศน์ที่ดีนั้น ควรมีลักษณะเช่นไร
ก. สั้น ง่าย ให้พลัง
ข. ท้าท้าย สร้างสรรค์ สร้างฝัน
ค. ท้าท้าย นุ่มลึก เร่าร้อน มีคุณค่า
ง. ชัดเจน ครอบคลุม กระตุ้นอารมณ์
4. หากโรงเรียนจะจัดงานวันเด็ก ท่านได้ประชุมกับคณะครูเป็นที่เรียบร้อย การสื่อสารแบบใดที่ท่านคิดว่าเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงในโรงเรียนของท่าน
ก. การสื่อสารทางเดียว
ข. การสื่อสารสองทาง
ค. การสื่อสารแบบไร้สาย
ง. การสื่อสารแบบให้สัญลักษณ์
5. หากท่านพัฒนาโรงเรียนของท่านจนได้รับรางวัลโรงเรียนต้นแบบของการจัดการเรียนการสอนในระดับสพท. ท่านจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
ก. ทำ Best Practices
ข. วางแผนพัฒนาการเรียนการสอน
ค. ฝึกอบรมครูในโรงเรียน
ง. จัดเวทีสัมมนาทางวิชาการ เชิญครูโรงเรียนอื่นเข้าร่วม
6.หัวใจสำคัญที่มีความสำคัญที่สุดและเป็นเครื่องกำหนดความสำเร็จหรือความล้มเหลวใน“การพัฒนาองค์กร” (Organization Development )
ก. การวินิจฉัยองค์กร (Organization Diagnosis)
ข. การกำหนดกลยุทธ์และวางแผนพัฒนาองค์กร (Establish OD Strategy and Implementation Plan)
ค. การนำกลยุทธ์การพัฒนาองค์กรไปประยุกต์ (OD Intervention)หรือการแทรกแซงการพัฒนาองค์กร
ง. การประเมินการพัฒนาองค์กร (OD Evaluation)
7. หากท่านนักเรียนที่โรงเรียนของท่าน มีจำนวนนักเรียนที่ออกกลางคันจำนวนมาก เพราะเบื่อหน่าย ไม่มีความสุขกับการเรียน หากท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ท่านจะทำเช่นไร
ก. ใช้กระบวนการพัฒนาทักษะชีวิตและกระตุ้นให้เด็กตื่นตัว
ข. ใช้กระบวนการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม
ค. ใช้ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ง. เข้าร่วมโครงการโรงเรียนคู่พัฒนา
8. หากโรงเรียนของท่านมีนักเรียน 27 คน ครู 6 คน ถ้าท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษาท่านคิดว่าจะดำเนินการเช่นไรกับโรงเรียนของท่าน
ก. จัดการเรียนการสอนสอนแบบคละชั้น
ข. ต้องบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน โดยการรวมหรือเลิก
ค. จัดครู 1 คน สอนอนุบาล1-2 จัดครู 1 คน สอนป.1-.2 และจัดครูที่เหลือประจำชั้น ป.3-6
ง. จัดการเรียนการสอนให้ครูปฏิบัติการสอนตามความเหมาะสม อาจมีครูประจำชั้นที่สอนควบชั้นและครูพิเศษ
9. ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากร ข้อใดไม่ควรทำในสถานศึกษา
ก. การสอนงาน
ข. การเรียนรู้ด้วยตนเอง
ค. การเรียนรู้ในห้องเรียน
ง. การเรียนรู้แบบทางเดียว
10. ในกระบวนการ PDCA ข้อมูลสารสนเทศจะมีประโยชน์ในส่วนใดมากที่สุด
ก. Plan
ข. Do
ค. Check
ง. Act
11. ในการมอบหมายงานในโรงเรียน ในฐานะที่ท่านเป็นผู้บริหาร ท่านจะแบ่งงานให้ครูโดยพิจารณาเรื่องใดน้อยที่สุด
ก. ความชอบของครู
ข. ความรู้ของครู
ค. ความสามารถของครู
ง. ความถนัดของครู
12. โรงเรียนประถมศึกษาที่อยู่ในจังหวัดของท่านได้รับรางวัลโรงเรียนพระราชทาน หากท่านต้องการส่งโรงเรียนเข้ารับการประเมินโรงเรียนรางวัลพระราชทานเช่นกัน ในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรของท่าน วีธีการใดที่ดีที่สุด
ก. พาคณะครูไปศึกษางาน
ข. เชิญวิทยากรจากโรงเรียนนั้นมาอบรมที่โรงเรียน
ค. ส่งตัวแทนครูเข้าไปเก็บข้อมูลต่างๆและนำข้อมูลมานำเสนอผู้บริหาร
ง. ศึกษาหลักเกณฑ์ของโรงเรียนที่เข้ารับการประเมินโรงเรียนรางวัลพระราชทาน
13. การนำความรู้ต่างๆ ที่มีประโยชน์ในสถานศึกษา และนำไปใช้ วิธีการใดถือว่าดีที่สุด
ก. นำความรู้มาจัดหมวดหมู่ ปรับปรุงให้ทันสมัย นำองค์ความรู้สำคัญๆไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ข. นำความรู้มาปรับปรุงให้ทันสมัย จัดหมวดหมู่ นำองค์ความรู้สำคัญๆไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ค. นำความรู้มาวิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ ปรับปรุงให้ทันสมัย นำองค์ความรู้สำคัญๆไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ง. นำความรู้มาสังเคราะห์ จัดหมวดหมู่ ปรับปรุงให้ทันสมัย นำองค์ความรู้สำคัญๆไปพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
14. ผู้บริหารท่านใดพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีความสามารถผ่านเทคโนโลยีโดดเด่นที่สุด
ก. ผู้บริหารที่สืบค้นข้อมูลเองได้ นำเสนอข้อมูลเองได้
ข. มอบหมายงานให้ครูสืบค้นข้อมูลเองได้ นำเสนอข้อมูลเองได้
ค. จัดอบรมครูจนครูสามารถสืบค้นข้อมูลเองได้ นำเสนอข้อมูลเองได้
ง. ผู้บริหารที่สามารถอาศัยคำแนะนำของครูในการสืบค้นข้อมูลเองและนำเสนอข้อมูล
15. ผู้บริหารที่มีความสามารถในการให้คำปรึกษากับคนอื่นได้ดีที่สุด ต้องเป็นผู้บริหารในลักษณะใด
ก. เป็นที่พึ่งของครูในการแก้ปัญหา
ข. แก้ปัญหาของครูได้เป็นส่วนใหญ่
ค. ให้คำแนะนำที่ดีในการแก้ปัญหา
ง. เสนอทางเลือกในการแก้ปัญหาได้หลากหลาย
16. โรงเรียนนกน้อย มีความพร้อมของข้อมูล สารสนเทศ ผู้รับผิดชอบ การวางแผน การดำเนินงาน การนิเทศติดตาม ประเมินผลการพัฒนา ปรับเปลี่ยนกระบวนการเป็นระยะเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย สิ่งที่น่าจะต้องทำต่อไป คือข้อใด
ก. สร้างเครือข่าย
ข. ทำ Best Practice
ค. สร้างจิตวิญญาณในการทำงาน
ง. ดำเนินการจัดการความรู้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
17. ในการบริหารงานโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน มุมมองของผู้บริหารที่มองครูควรเป็นลักษณะใด
ก. ครูคือคนดีและเก่ง
ข. ครูคือคนไม่ดีแต่เก่ง
ค. ครูคือคนดีและไม่เก่ง
ง. ครูคือคนไม่ดีและไม่เก่ง
18. “นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า จากการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ประชุมได้หารือถึงการดำเนินนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่จะเริ่มในปีการศึกษา 2552 โดยมีมติกำหนดที่จะให้ฟรีใน 5 รายการ ดังนี้ ค่าเล่าเรียน ตำราเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ อุปกรณ์การเรียน ชุดนักเรียน 2 ชุดต่อคนต่อปี และค่ากิจกรรมพิเศษ ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้งว่าเป็นกิจกรรมอะไรบ้างที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่จะไม่เก็บค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม ตนได้มอบหมายให้แต่ละองค์กรหลักที่มีสถานศึกษาในแต่ละสังกัดไปจัดทำรายละเอียด วิธีการ รวมทั้งงบประมาณ เพื่อมาพิจารณาร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 12 ม.ค.นี้ เนื่องจากการจัดการศึกษาในแต่ละสังกัด และแต่ละระดับชั้น จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน”
จากข้อความข้างต้น หากจะมาพิจารณาถึงการวิเคราะห์องค์กร น่าจะเข้าข่ายเรื่องใดมากที่สุด
ก. Strength
ข. Weakness
ค. Opportunity
ง. Threat
19. หากโรงเรียนของท่าน สาเหตุสำคัญที่สุดที่เด็กไม่ยอมมาเรียนหนังสือคือ มีความจำเป็นทางครอบครัว เนื่องจากเด็กบางคนต้องช่วยครอบครัวในการทำมาหากิน หากไปเรียนหนังสือก็จะทำให้ขาดรายได้ ท่านจะดำเนินการอย่างไรจึงจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุดและได้ผลเร็วที่สุด และสนองกับนโยบายของสพฐ.มากที่สุด
ก. หาทุนการศึกษาให้นักเรียน
ข. ปลูกฝังปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ค. ให้นักเรียนมาทำงานที่โรงเรียนแทนที่จะช่วยผู้ปกครอง
ง. ให้นักเรียนช่วยงานผู้ปกครองไปก่อน หากรายได้ดีขึ้น อนุญาตให้นักเรียนกลับมาเรียนต่อได้
20. “โรงเรียนที่เคยเป็นต้นแบบเรื่องระบบนิเวศในนาข้าว ที่ถือว่าเป็นวิธีการเรียนรู้จากธรรมชาติ และจากการลงมือปฏิบัติจริงที่สมบูรณ์ที่สุด เมื่อมีสื่อ interactive ที่ได้ผล ก็พอใจ” หากท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษาจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
ก. ยกเลิกวิธีเดิมไป
ข. ผสมผสานกัน
ค. กลับไปใช้วิธีเดิม
ง. ไม่ใช้ทั้งสองวิธี หาวีธีใหม่
21. ถ้าท่านเป็นผู้บริหารสถานศึกษา ท่านจะะตอบสนอง กลยุทธ์ ข้อ 2 สพฐ. 2552 โดยมอบสถานศึกษาดำเนินการในเรื่องใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
ก. ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน
ข. ปรับบ้านเป็นห้องเรียนเปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู
ค. รักษ์โรงเรียน หมั่นเพียรศึกษา ก้าวหน้าทันโลก
ง. โรงเรียนน่าอยู่ คุณครูน่ารัก หนูรักโรงเรียน
ตอบ ข้อ ข ("ปรับบ้านเป็นห้องเรียนเปลี่ยนพ่อแม่เป็นครู" ชื่อนี้ สพฐ. กำหนดเป็นกิจกรรม/โครงการ ขึ้นมา ผมไม่ได้เขียนเองครับ)
22. โรงเรียนนกน้อยโบยบิน ได้กำหนดวิสัยทัศน์ซึ่งมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียน ข้อใดที่ท่านคิดว่าน่าจะเป็นปัจจัยหลักแห่งความสำเร็จของโรงเรียนแห่งนี้
ก. นักเรียน ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้ปกครอง และชุมชน
ข. นักเรียนทุกคนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สถานศึกษากำหนด
ค. ร้อยละของนักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่สถานศึกษากำหนด
ง. การกำหนดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกับหลักสูตรแกนกลางฯ
23. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของโครงการอาหารเสริม (นม)
ก. ส่งเสริมและพัฒนาสุขภาพอนามัยของเด็กนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษา
ข. ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษาได้รับสารอาหารที่เหมาะสมตามวัย
ค. ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษาได้รับอาหารเสริมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ง. ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษาได้รับสารอาหารที่เหมาะสมต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโต
1. การรับนักเรียนนักศึกษาในกรณีที่ไม่เคยเข้าเรียนในสถานศึกษามาก่อน ให้สถานศึกษาเรียกหลักฐานใดเพื่อนำมาลงหลักฐานทางการศึกษาเป็นอันดับแรก
ก. บัตรประจำตัวประชาชน
ข. ทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
ค. หนังสือรับรองการเกิด
ง. สูติบัตร
2. หลักฐานบันทึกแจ้งประวัติบุคคล กรณีไม่มีหลักฐานอื่นมาสมัครเรียน ให้เก็บต้นฉบับไว้ที่ใด
ก. สถานศึกษา
ข. ผู้ปกครอง
ค. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
3. หลักฐานบันทึกแจ้งประวัติบุคคล กรณีไม่มีหลักฐานอื่นมาสมัครเรียน ให้ผู้สมัครเรียนทำอย่างไร
ก. ลงลายมือชื่อกำกับในช่องผู้สมัครเรียน
ข. ลงลายมือชื่อกำกับความถูกต้อง
ค. พิมพ์ลายมือนิ้วหัวแม่มือขวาหรือซ้าย
ง. ถูกทุกข้อ
4. ในกรณีที่วัน เดือน ปีเกิดของนักเรียนผิดพลาดจาก จนท.ในโรงเรียน ใครเป็นผู้แก้ไขให้ถูกต้อง
ก. สำนักงานทะเทียนอำเภอ/เทศบาล
ข. หัวหน้าสถานศึกษา
ค. เจ้าหน้าที่ทะเบียนสถานศึกษา
ง. จนท.ที่บันทึก
5. การแก้ไขตามข้อ 4 ให้ทำอย่างไร
ก. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง แล้วแต่งเติมด้วยหมึกดำ
ข. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง แล้วแต่งเติมด้วยหมึกน้ำเงิน
ค. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง แล้วแต่งเติมด้วยหมึกแดง
ง. ขีดฆ่าด้วยหมึกแดง แล้วแต่งเติมด้วยหมึกดำหรือน้ำเงิน
6. ข้อใดไม่ใช่ อำนาจและหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548”
ก. ประสานงานกับผู้บริหารโรงเรียนหรือสถานศึกษา ครู ผู้ปกครอง ตำรวจ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น
ข. สอบถามครู อาจารย์ หรือหัวหน้าสถานศึกษา เกี่ยวกับความประพฤติ การศึกษา นิสัยและสติปัญญาของนักเรียนหรือนักศึกษาที่ฝ่าฝืนกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา หรือระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา
ค. เรียกผู้ปกครองมาว่ากล่าวตักเตือนหรือทำทัณฑ์บนว่าจะปกครองดูแลมิให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝ่าฝืนกฎกระทรวงว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา หรือระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาอีก
ง. เป็นอำนาจและหน้าที่ทุกข้อ
7. ข้อใดไม่ถูกต้อง ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการชักธงชาติในสถานศึกษา พ.ศ.2547
ก. ชักธงในวันมาฆะบูชา 1 วัน
ข. ชักธงในวันสงกรานต์ 3 วัน
ค. ชักธงในวันเฉลิมพระชนพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 3 วัน
ง. ชักธงในวันเข้าพรรษา 1 วัน
8. ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการตั้งชื่อสถานศึกษา พ.ศ.2547 ข้อใดไม่สามารถนำมาใช้ตั้งชื่อโรงเรียนได้
ก. หมู่บ้าน
ข. วัด
ค. บุคคล
ง. ใช้ได้ทุกข้อ
9. ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการตั้งชื่ออาคาร ห้อง หรืออุปกรณ์ของสถานศึกษา พ.ศ.2547 ผู้ประสงค์จะจารึกชื่อลงในอุปกรณ์ของสถานศึกษา ต้องบริจาคทรัพย์ซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวในอัตราร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 50 ขึ้นไป
ข. ร้อยละ 60 ขึ้นไป
ค. ร้อยละ 80 ขึ้นไป
ง. บริจาคเพียงคนเดียว
10. ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการตั้งชื่ออาคาร ห้อง หรืออุปกรณ์ของสถานศึกษา พ.ศ.2547 ผู้ประสงค์จะจารึกตั้งชื่ออาคารเรียนต้องบริจาคทรัพย์สร้างอาคารดังกล่าวในอัตราร้อยละเท่าใด
ก. ร้อยละ 50 ขึ้นไป
ข. ร้อยละ 60 ขึ้นไป
ค. ร้อยละ 80 ขึ้นไป
ง. บริจาคเพียงคนเดียว
11. ใครเป็นผู้อนุมัติการตั้งชื่ออาคารเรียนในสถานศึกษา
ก. หัวหน้าสถานศึกษา
ข. คณะกรรมการสถานศึกษา
ค. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
12. การจัดตั้งสถานศึกษาระดับประถมศึกษาขึ้นใหม่ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐานพ.ศ. 2550 จะต้องมีจำนวนนักเรียนในแต่ละรายอายุไม่น้อยกว่ากี่คนมาเข้าเรียน
ก. 20 คน
ข. 25 คน
ค. 30 คน
ง. 35 คน
13. การจัดตั้งสถานศึกษาระดับมัธยมศึกษาขึ้นใหม่ ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดตั้ง รวม หรือเลิกสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2550 จะต้องมีจำนวนนักเรียนในแต่ละชั้นไม่น้อยกว่ากี่คนมาเข้าเรียน
ก. 50 คน
ข. 65 คน
ค. 70 คน
ง. 80 คน
14. สถานที่ที่จะจัดตั้งสถานศึกษาต้องเป็นที่ดินที่มีหลักฐานอนุญาตให้ใช้ ตามประเภทของที่ดินอย่างถูกต้อง จำนวนไม่น้อยกว่ากี่ไร่
ก. 20 ไร่
ข. 25 ไร่
ค. 30 ไร่
ง. 35 ไร่
15. สถานศึกษาที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่จะต้องอยู่ห่างจากสถานศึกษาประเภทเดียวกัน ที่ตั้งอยู่เดิมไม่น้อยกว่ากี่กิโลเมตร ตามเส้นทางคมนาคม
ก. 3 กิโลเมตร
ข. 4 กิโลเมตร
ค. 5 กิโลเมตร
ง. 6 กิโลเมตร