21. การใช้จ่ายเงินรายได้ของสถานศึกษาให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ อัตรา และวิธีการที่หน่วยงานใดเป็น ผู้กำหนด
ก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. สถานศึกษากำหนด
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ก. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
22. การจ่ายเงินรายได้สถานศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตามแผนปฏิบัติงาน และแผนใช้จ่ายเงินรายได้สถานศึกษาจะต้องได้รับความเห็นชอบจากใครต่อไปนี้
ก. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ข. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ค. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา ง. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ถูกทุกข้อ
26. การใช้จ่ายเงินรายได้สถานศึกษาเพื่อเป็นเงินยืม ให้สามารถดำเนินการได้กรณีใดต่อไปนี้
ก. ยืมเพื่อทดลองจ่ายค่าพัฒนาสภาพแวดล้อม และพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน
ข. ยืมเพื่อดำเนินงานจัดหารายได้ให้กับสถานศึกษา
ค. ยืมเพื่อทดลองจ่ายเกี่ยวกับเงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลและการศึกษาบุตรของข้าราชการและลูกจ้างของสถานศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ
27. การดำเนินการอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในประกาศนี้ ให้ขอความเห็นชอบจากผู้ใด
ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ผู้อำนวยการโรงเรียนเจ้าของเงินรายได้สถานศึกษาแห่งนั้น
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
28. ข้อใดคือ อำนาจในการอนุมัติจ่ายเงิน การอนุมัติจ่ายเงินยืม ก่อหนี้ผูกพัน สั่งซื้อสั่งจ้าง และการดำเนินการทั้งปวงตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 จากเงินรายได้สถานศึกษาของผู้อำนวยการสถานศึกษา
ก. ครั้งละไม่เกิน 15 ล้านบาท
ข. ครั้งละไม่เกิน 20 ล้านบาท
ค. ครั้งละไม่เกิน 25 ล้านบาท
ง. ครั้งละไม่เกิน 40 ล้านบาท
ก. ครั้งละไม่เกิน 15 ล้านบาท
29. ข้อใดคือ อำนาจในการอนุมัติจ่ายเงิน การอนุมัติจ่ายเงินยืม ก่อหนี้ผูกพัน สั่งซื้อสั่งจ้าง และการดำเนินการทั้งปวงตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 จากเงินรายได้สถานศึกษาของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ก. ครั้งละไม่เกิน 15 ล้านบาท
ข. ครั้งละไม่เกิน 20 ล้านบาท
ค. ครั้งละไม่เกิน 25 ล้านบาท
ง. ครั้งละไม่เกิน 40 ล้านบาท
ข. ครั้งละไม่เกิน 20 ล้านบาท (ผู้ว่าราชการจังหวัด ครั้งละไม่เกิน 25 ล้านบาท)
1. นักจิตวิทยาตามข้อใดต่อไปนี้คือ บิดาแห่งการแนะแนว
ก. เฟรอเบล ข. ซิกมันด์ ฟรอยด์
ค. แฟรงค์ พาร์สัน ง. วัตสัน
ค. แฟรงค์ พาร์สัน
2. ปรัชญาการแนะแนว มีกี่ข้อ
ก. 4 ด้าน ข. 5 ด้าน
ค. 6 ด้าน ง. 7 ด้าน
ค. 6 ด้าน
. ปรัชญาแนะแนว ตามข้อใดต่อไปนี้ไม่ถูกต้อง
ก. บุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน
ข. พฤติกรรมทุกอย่างของบุคคลย่อมมีสาเหตุ
ค. พฤติกรรมย่อมมีการเปลี่ยนแปลง
ง. ธรรมชาติของคนมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
ง. ธรรมชาติของคนมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม
. การแนะแนว มีขอบขายภารกิจกี่ด้าน
ก. 2 ด้าน ข. 3 ด้าน
ค. 4 ด้าน ง. 5 ด้าน
ข. 3 ด้าน
5. ข้อใดไม่ใช่ขอบข่ายภารกิจของการแนะแนว
ก. ด้านการศึกษา
ข. ด้านอาชีพ
ค. ด้านดำรงชีวิต
ง. ด้านส่วนตัวและสังคม
ค. ด้านดำรงชีวิต
8. ข้อใดไม่ใช่เป้าหมายการบริการแนะแนว
ก. เพื่อแก้ปัญหา ข. เพื่อป้องกันปัญหา
ค. เพื่อพัฒนาส่งเสริม ง. เพื่อให้ทราบสาเหตุของปัญหา
ง. ครับ
9. ข้อใดไม่ใช่ขอบข่ายการบริการของการแนะแนว
ก. บริการรวบรวมข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคคล
ข. บริการสืบค้นข้อมูล บริการประสัมพันธ์
ค. บริการให้คำปรึกษา บริการตามติดตามผล ประเมินผล
ง. บริการสนเทศ บริการจัดวางตัวบุคคล
ข. บริการสืบค้นข้อมูล บริการประสัมพันธ์
10. ข้อใดคือ หัวใจของงานแนะแนว
ก. บริการรวบรวมข้อมูลนักเรียนเป็นรายบุคล
ข. บริการสารสนเทศ
ค. บริการให้คำปรึกษา
ง. บริการจัดวางตัวบุคคล
ค. บริการให้คำปรึกษา
11. ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีกี่ระบบ
ก. 3 ระบบ
ข. 4 ระบบ
ค. 5 ระบบ
ง. 6 ระบบ
ค. 5 ระบบ
12. ข้อใดไม่ใช่ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
ก. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
ข. การคัดเลือกนักเรียน
ค. การป้องกันและแก้ปัญหา
ง. การส่งเสริมพัฒนา
ข. การคัดเลือกนักเรียน
13. ข้อใดคือ ขั้นตอนแรกของการให้คำปรึกษา
ก. สร้างความคุ้นเคย
ข. การให้คำปรึกษา
ค. การกำหนดปัญหา
ง. การรวบรวมข้อมูล
ก. สร้างความคุ้นเคย
31.ประธานกรรมการคุรุสภา (คนปัจจุบัน) คือข้อใด?
ก.นายกรัฐมนตรี ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง.เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
32.ผู้ใดไม่ได้เป็นองค์ประกอบในคณะกรรมการคุรุสภา?
ก.เลขาธิการสภาการศึกษา
ข.เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ค.เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ง.เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ง.เลขาธิการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
33.ปัจจุบันคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษามีจำนวนเท่าใด?
ก.9 คน ข.10 คน ค.11 คน ง.23 คน
ก.9 คน
34.ประธานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการ และส่งเสริมสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาคือผู้ใด?
ก.นายกรัฐมนตรี ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ค.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง.เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ข.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
35.คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 10/2559 ว่าด้วยเรื่องอะไร?
ก.การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ข.การปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคหรือจังหวัด
ค.การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ง.การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคหรือจังหวัด
ค.การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
37.ข้อใดเป็นกรรมการ และเลขานุการของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค?
ก.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ข.เลขาธิการสภาการศึกษา
ค.เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา ง.เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ก.ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
38.องค์กรตามใดรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาในภูมิภาค?
ก.สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
ข.สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
ค.สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง.สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข.สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
39.ข้อใดไม่เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาในภูมิภาค?
ก.กำหนดทิศทางในการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด
ข.พิจารณาแผนงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด
ค.พิจารณาการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด
ง.ไม่มีถูกเพราะเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคทุกข้อที่กล่าวมา
ข.พิจารณาแผนงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในระดับภูมิภาคหรือจังหวัด
40.คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559 ว่าด้วยเรื่องอะไร?
ก.การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ข.การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคหรือจังหวัด
ค.การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาในภูมิภาค
ง.การขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคหรือจังหวัด
ก.การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
41.ให้มี สำนักงานศึกษาธิการภาค จํานวนตามข้อใด?
ก. 18 ภาค ข.ไม่เกิน 18 ภาค
ค.ไม่ต่ำกว่า 18 ภาค ง.ไม่น้อยกว่า 18 ภาค
ก. 18 ภาค
42.สำนักงานศึกษาธิการภาคสังกัดส่วนราชการตามข้อใด?
ก.สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
ข. สำนักงานคณะกรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ค.สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กรทรวงศึกษาธิการ
ง.สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ก.สํานักงานปลัดกระทรวง กระทรวงศึกษาธิการ
เง.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการตามที่ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
45.สมศ.ย่อมาจากคำว่าอะไร?
ก.สํานักรับรองมาตรฐานและประเมิน คุณภาพการศึกษา
ข.สํานักรับรองมาตรฐานและประกัน คุณภาพการศึกษา
ค.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
ง.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประกันคุณภาพการศึกษา
ค.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
49.สมศ.หน่วยงานที่ทำหน้าที่ประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษาทุกแห่งของประเทศไทยตามใด?
ก.การศึกษาขั้นพื้นฐาน ข.ด้านการอาชีวศึกษา
ค.ระดับอุดมศึกษา ง.ถูกทุกที่กล่าวมา
ง.ถูกทุกที่กล่าวมา