1. กฎกระทรวงดังกล่าว กำหนดให้ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาด้านวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารงานทั่วไปไปยังคณะบุคคล หรือหน่วยงานใดต่อไปนี้
ก. คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ข. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. สถานศึกษา
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ
ค. ประกาศ
3. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ หรือเลขาธิการคณะกรรมการขั้นพื้นฐาน อาจประกาศกำหนดให้มี การรวมกลุ่มของสถานศึกษาทั้งในหรือต่างเขตพื้นที่การศึกษา เรียกว่าสิ่งใดต่อไปนี้ เพื่อช่วยเหลือกันในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องที่ได้รับการกระจายอำนาจ
ก. เครือข่ายการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา
ข. ระบบเครือข่ายการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษา
ค. เครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการศึกษา
ง. ระบบเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการศึกษา
ง. ระบบเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการศึกษา
5. สถานศึกษาประเภทที่ 1 หมายถึง สถานศึกษาตามข้อใดต่อไปนี้
ก. สถานศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 360 คนขึ้นไป
ข. สถานศึกษาที่มีนักเรียนตั้งแต่ 500 คนขึ้นไป
ค. สถานศึกษาที่มีผลการประเมินจาก สมศ.ได้มาตรฐาน
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
6. กรณีสถานศึกษาประเภทที่ 1 ไม่สามารถบริหารและจัดการศึกษาตามแนวทางที่ได้รับการกระจายอำนาจได้ ให้ สพท.เร่งช่วยเหลือ และประเมินหากยังไม่ผ่านการประเมินอีก ใครมีอำนาจในการประกาศถอดถอนรายชื่อสถานศึกษาดังกล่าวออกจากการเป็นสถานศึกษาประเภทที่ 1
ก. กระทรวงศึกษาธิการ
ข. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ถูกทั้งข้อ ข และ ค
ข. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา อาจจัดกลุ่มสถานศึกษาประเภทที่ 2 เป็นเครือข่ายสถานศึกษาประเภทที่ 2 เพื่อช่วยเหลือ ปรับปรุง และพัฒนาการบริหารและจัดการศึกษาสู่ความเป็นสถานศึกษาประเภทที่ 1 โดยการจัดทำเป็นแนวปฏิบัติใดต่อไปนี้
ก. ระเบียบ คณะกรรมการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ข. ประกาศ คณะกรรมการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. ระเบียบ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ประกาศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ประกาศ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
8. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2553 มาตรา 35 กำหนดให้สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามมาตรา 34 (2) เฉพาะที่เป็นโรงเรียนมีฐานะเป็นนิติบุคคล ซึ่งความเป็นนิติบุคคลดังกล่าวถือเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายใดต่อไปนี้
ก. กฎหมายเอกชน
ข. กฎหมายมหาชน
ค. กฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ง. กฎหมาอาญา
ข. กฎหมายมหาชน
9. ความเป็นนิติบุคคลของสถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเฉพาะที่เป็นโรงเรียนดังกล่าวเปรียบได้กับความเป็นนิติบุคคลของหน่วยงานใดต่อไปนี้
ก. บริษัท ข. ห้างหุ้นส่วน ค. จังหวัด ง. อำเภอ
ค. จังหวัด
10. สถานศึกษามีอำนาจหน้าที่และวัตถุประสงค์เพื่อจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายใดต่อไปนี้
ก. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
ข. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการกระทรวงศึกษาธิการ
ค. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
11. บุคคลใดต่อไปนี้คือ ผู้แทนนิติบุคคลของสถานศึกษา
ก. เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจาก สพฐ.
ข. ผอ.สพท.
ค. รอง ผอ.สพท.ที่ได้รับมอบหมายจาก ผอ.สพท.
ง. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ง. ผู้อำนวยการสถานศึกษา
12. สถานศึกษามีอำนาจปกครอง ดูแล บำรุง รักษา ใช้และจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้ยกเว้นการดำเนินการกรณีใดดังต่อไปนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาก่อน
ก. การให้เช่าทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้
ข. การรื้อถอนอสังหาริมทรัพย์ที่มีผู้อุทิศให้เพื่อจัดสร้างทดแทน
ค. การจำหน่ายอสังหาริมทรัพย์ที่มีอุทิศให้
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ
13. กรณีที่นิติบุคคลสถานศึกษาถูกฟ้องคดี ใครเป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินคดีแทนสถานศึกษาดังกล่าว
ก. สถานศึกษาเอง ข. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ค. บุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้งจาก สพฐ. ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ข
ค. บุคคลผู้ได้รับการแต่งตั้งจาก สพฐ.
14. บุคคลใดต่อไปนี้เป็นผู้มีอำนาจในการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการงบประมาณพัสดุ การเงิน และบัญชีของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคล
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ข. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ง. ถูกทุกข้อ
ค. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
15. “เงินรายได้สถานศึกษา” หมายถึงเงินตามข้อใดต่อไปนี้
ก. บรรดารายได้ ผลประโยชน์ที่เกิดจากที่ราชพัสดุ
ข. เบี้ยปรับการผิดสัญญาการลาศึกษา
ค. เบี้ยปรับการผิดสัญญาการซื้อทรัพย์สิน หรือจ้างทำของที่ดำเนินการโดยใช้เงินงบประมาณ เงินที่มีผู้มอบให้ และเงินหรือผลประโยชน์อื่นที่สถานศึกษารับไว้เป็นกรรมสิทธิ์ ไม่รวมเงินงบประมาณรายจ่าย
ง. ถูกทุกข้อ
ง. ถูกทุกข้อ
16. โรงเรียนขนาดที่มีนักเรียน ไม่เกิน 120 คน มีอำนาจในการเก็บรักษาเงินรายได้สถานศึกษาไว้ ณ ที่ทำการตามข้อใดต่อไปนี้
ก. วงเงินสำรองวงเงินสำรองจ่าย วันละไม่เกิน 20,000 บาท
ข. วงเงินสำรองวงเงินสำรองจ่าย วันละไม่เกิน 100,000 บาท
ค. วงเงินฝากธนาคาร 30,000 บาท
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
17. โรงเรียนขนาดที่มีนักเรียน เกิน 120 คนขึ้นไป มีอำนาจในการเก็บรักษาเงินรายได้สถานศึกษาไว้ ณ ที่ทำการตามข้อใดต่อไปนี้
ก. วงเงินสำรองวงเงินสำรองจ่าย วันละไม่เกิน 30,000 บาท
ข. วงเงินสำรองวงเงินสำรองจ่าย วันละไม่เกิน 100,000 บาท
ค. วงเงินฝากธนาคาร 1,000,000 บาท
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
ง. ถูกทั้งข้อ ก และ ค
19. ดอกผลของเงินรายได้ของสถานศึกษาที่เกิดจากเงินฝากธนาคารให้ดำเนินการตามข้อใดต่อไปนี้
ก. นำส่งคลังเป็นเงินรายได้แผ่นดิน
ข. ให้สมทบเป็นเงินรายได้สถานศึกษา
ค. ฝากเป็นเงินนอกงบประมาณประเภทเงินอื่น ๆ
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ข. ให้สมทบเป็นเงินรายได้สถานศึกษา
20. การจ่ายเงินรายได้สถานศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของสถานศึกษาอื่น ใครเป็นผู้มีอำนาจพิจารณาอนุญาต
ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ค. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ง. ผู้อำนวยการโรงเรียนเจ้าของเงินรายได้สถานศึกษาแห่งนั้น
ข. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน